กลุ่มผู้เสียหายถูกหลอกไปทำงานเกาหลีใต้ร้อง ปคม.โดนหลอกลอยแพเคว้งคาสนามบิน เกือบ 50 คน มูลค่าความเสียหายกว่าร้อยล้านบาท เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 ม.ค.68 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธินโย จตุจักร กทม.ตัวแทนกลุ่มแรงงานไทยกว่า 30 คน จากนครราชสีมาถูกขบวนการหลอกไปทำงานประเทศ รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม หลังถูกบุคคลที่ชื่อนางสาวเอส ชักชวนไปทำงานที่เกาหลีใต้ แล้วถูกลอยแพปล่อยทิ้งคาสนามบิน รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท นายปู ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายเล่าว่า น.ส.มะลิ มาชักชวนให้ไปทำงานที่เกาหลีใต้ ผ่านญาติๆ ในจังหวัดนครราชสีมา หากใครสนใจจะทักแชทหาเป็นรายบุคคล โดยอ้างว่า สามารถพาไปทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีใบเชิญจากทางประเทศปลายทาง โดยจะมีรายได้ดี ได้เงินเดือนอย่างน้อย 6 หมื่นบาทต่อเดือน ไม่รวมโอที โดยเฉพาะไปทำงานด้านอู่ต่อเรือ ได้เงินเริ่มต้น 120,000 บาท จึงเชื่อ ตัดสินใจไปกู้หนี้ จำนองที่ดิน ขายรถ เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายที่จะเดินทางไปทำงาน ซึ่งมีการอ้างว่าเป็นค่าเดินทาง ค่าทำเอกสาร เป็นค่าใช้จ่ายตกต่อคนไม่ต่ำกว่าแสนบาท ซึ่งในกลุ่มผู้เสียหายมีประมาณเกือบ 50 คน ความเสียหายมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อทุกคนได้โอนเงินให้กลุ่มของนางสาวเอสไป หลังจากนั้นก็มีการเรียกค่าใช้จ่ายอื่นๆ มาอีกอย่างต่อเนื่อง อ้างเป็นค่าวิ่งเต้นเจ้าหน้าที่ ค่าดำเนินการต่างๆ ทุกวันนี้ทุกข์ใจมากเพราะต้องลาออกงานจากที่เดิม เพื่อมารอไปทำงาน ตอนนี้ตกงานไม่มีเงินไม่มีรายได้เลย ค่าใช้จ่าย ค่ารถ ก็รออยู่ เมื่อสอบถามไปยัง น.ส.มะลิ ก็พยายามบ่ายเบี่ยงติดขัดเรื่องปัญหาเอกสาร เมื่อจะขอเงินคืนก็ไม่มีการคืนให้แต่กลับข่มขู่กลับหากใครไปแจ้งความจะไม่คืนเงินให้ ทั้งนี้เชื่อว่าแบ่งหน้าที่ทำกันเป็นขบวนการไม่ต่ำกว่า 3 คน เพราะมีทั้ง น.ส.มะลิ ที่ติดต่อกับเหยื่อผู้เสียหาย คนประสานงาน และบัญชีม้ารับโอน วันนี้จึงนำหลักฐานการพูดคุย การโอนเงิน มาแจ้งความ เนื่องจากกลุ่มคนร้าย อยากให้ตำรวจช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีและคืนเงินให้กับกลุ่มผู้เสียหายด้วย เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปคม. สอบปากคำผู้เสียหายและจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
