บิ๊กราญ แถลง สืบ9.และ 191 จับยาบิ๊กล็อตพ่วงเครือข่าย “ก้อนิมิตรใหม่”
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 2 ธ.ค.ที่กองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ 191 (บก.สปพ.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ 191 (บก.สปพ.) พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9 พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.สปพ.ชุดสืบสวน บก.น.9 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ รวม 2 คดี พร้อมของกลางรวมยาบ้า จำนวน 7.8 ล้านเม็ด, ยาไอซ์ 212 กก. และวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) รวมน้ำหนักประมาณ 340 กรัม และรถยนต์ของกลางอีกจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า คดีแรก เจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 ได้รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะมีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด บริเวณอู่กุ้ง โมซิ่ง ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยใช้รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีขาว ทะเบียน ฒช 98 กรุงเทพมหานคร โดยจะมีการขนยาเสพติดไว้ภายในรถ และจะขนนำมาไว้ที่อู่ดังกล่าว ต่อมาวันที่ 1 ธ.ค.เวลา 18.00 น. ชุดสืบสวนเฝ้าติดตามจนพบว่า รถยนต์คันดังกล่าวขับออกจากอู่ฯ มุ่งหน้าไปยัง อ.เชียงราก จ.ปทุมธานี และเลี้ยวเข้าซอยเปลี่ยวเพื่อไปรับยาเสพติดก่อนมุ่งหน้ากลับมายังบริเวณอู่กุ้ง โมซิ่ง จ.นนทบุรี โดยมีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีเทา ทะเบียน ขน – 8962 ระยอง ขับนําขบวน
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวต่อว่า เมื่อเป้าหมายมาถึงบริเวณอู่กุ้ง โมซิ่ง เจ้าหน้าที่จึงทําการตรวจค้น กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย คือ นายอนุกูล หรือตั้ม ทับแถม อายุ 38 ปีผู้ขับขี่รถยนต์กระบะตู้ทึบ , นายธัชชัย หรือบี เชิญผึ้ง อายุ 33 ปี คนขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส (รถนำขบวน) และนายประจวบ หรือจวบ ทุ่มท่าไม้ อายุ 44 ปี นั่งมากับรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส พร้อมของกลางยาเสพติดซุกซ่อนภายในกระบะตู้ทึบประมาณ 7,800,000 เม็ด และยึดรถยนต์ของกลาง รวม 3 คัน ก่อนนำตัวแจ้งข้อกล่าวหา”ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีจําหน่ายยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจําหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทําเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการกระทําที่
ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” คุมตัวส่ง กก.สายตรวจ บก.สปพ. เพื่อขยายผลก่อนส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดําเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติตรวจสอบประวัตินายอนุกูล หรือตั้ม พบว่าเคยถูกจับข้อหาเป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 สน.ตลิ่งชัน, มียาเสพติดให้โทษ(ยาบ้า)ไว้ในครอบครอง สภ.บางบัวทอง และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า,ไอซ์) สภ.ไทรน้อย และนายประจวบ หรือจวบ เคยต้องโทษคดี เสพยาเสพติดให้โทษ ของ สภ.ไทรน้อย
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวต่อว่า คดีที่ 2 ชุดสืบสวน บก.น.9 จับกุมเครือข่ายยาเสพติด “ก้อ นิมิตรใหม่” หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีนายนัทวุฒิ หรือฟิลม์ อินทร์ขาว อายุ 26 ปี ชาว จ.ประจวบฯ ผู้ต้องหา มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและใช้หมู่บ้านย่านนิมิตรใหม่ เป็นสถานที่ในการเก็บซุกซ่อนยาเสพติด จึงได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จนพบตัวนายนันทวุฒิ มีตำหนิรูปพรรณตรงกับที่สายลับแจ้ง ขับขี่รถจยย. มาจอดที่บริเวณหน้าบ้านและเข้าไปในบ้าน เมื่อนายนันทวุฒิออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งสงสัยว่าจะเข้าไปเอายาเสพติดที่ซุกซ่อนอยู่ในบ้านไปจำหน่ายให้ลูกค้า จึงได้แสดงตนขอทำการตรวจค้นพบวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 10 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย
โดยนายนันทวุฒิ ยอมรับว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่อีกภายในบ้าน ชุดจับกุมจึงอาศัยอำนาจเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.เข้าทำการตรวจค้นในบ้าน พบยาไอซ์ ของกลางดังกล่าว บรรจุอยู่ภายในถุงใบชา และ คีตามีน วางอยู่บริเวณชั้น 1 ของบ้าน จึงได้ยึดยาเสพติดทั้งหมดเป็นของกลางและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
จากการสอบสวนนายนันทวุฒิ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าอยู่ในเครือข่าย “ก้อ นิมิตรใหม่” โดยจะทำหน้าที่รับคำสั่งจากนายก้อ ให้ไปรับยาเสพติดมาจากพื้นที่ภาคกลาง มาเก็บไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวและจำหน่ายให้ลูกค้าในเขตกรุงเทพฯและพื้นที่ใกล้เคียง ขณะอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้จะมีการปิดล้อมตรวจค้นอีกในหลายจุด พร้อมฝากประชาชนหากพบเห็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยสามารถแจ้งตํารวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทําการสืบสวนและจับกุมผู้กระทําผิดมาดําเนินคดี
///