ศาลอยุธยา วางพวงมาลาเทิดพระเกียรติกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เนื่องในวันรพี 2565
ศาล อยุธยา จัดพิธีวางพวงมาลา ถวายสดุดีเทิดพระเกียรติพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เนื่องในวันรพี 2565 “พระบิดาแห่งกฎหมายไทย”
วันนี้ (5 ส.ค.65 ) ณ พระอนุสาวรีย์ฯ บริเวณหน้าอาคารศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวัฒนา เทพวุฒิสถาพร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธาน นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมงานรำลึก วันรพี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ บิดาแห่งกฎหมายไทย ประจำปี 2565 โดยจัดพิธีทำบุญพระสงฆ์ 10 รูป โดยมี พระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีการวางพวงมาลา กล่าวคำสดุดี และยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อน้อมรำลึกถึงดวงพระวิญญาณของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์
นายวัฒนา เทพวุฒิสถาพร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงมีพระนามเดิมว่าพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ทรงเป็นพระราชโอรส องค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งประสูติแต่เจ้าจอมมารดาตลับ ประสูติเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2417 โดยได้ทรงไปศึกษาวิชากฎหมายที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ได้รับปริญญาตรีเกียรตินิยม ขณะนั้นทรงมีพระชนมายุเพียง 20 ชันษา จากนั้นพระองค์ได้เสด็จกลับมารับราชการในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดี กระทรวงยุติธรรม และพระองค์ทรงเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงและจัดวางระบบศาลยุติธรรมของประเทศไทย จากระบบเก่าสู่ระบบใหม่ ปรับปรุงสารต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมือง พร้อมปรับปรุงแก้บทกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง และวิธีพิจารณาความอาญา ทำให้ระบบงานศาลยุติธรรมของไทย เจริญมั่นคงทัดเทียมต่างประเทศ พระองค์ทรงวางรากฐานวิชาการทางกฎหมาย แก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับกฎหมายของอารยประเทศ และทรงปฏิรูประบบศาลยุติธรรมให้เจริญก้าวหน้าตามแบบหลักกฎหมาย จนทำให้นักกฎหมายจากนานาประเทศต่างยอมรับ และถวายพระเกียรติให้พระองค์ทรงเป็น พระบิดาแห่งกฎหมายไทย
สุขุม แก้วกุดั่น อยุธยา