นนทบุรี เจ้าของธุรกิจนกเหยี่ยว ถูกลูกจ้างขโมยนกเหยี่ยวชื่อดัง ราคา 2 แสน ไปขายต่อ มีหลักฐานคดีไม่คืบ ซ้ำถูกตร.เรียกรับเงินค่าทำคดี 1 หมื่น เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 67 ณ ที่สำนักงาน สส.พรรคประชาชน เขต 7 จังหวัดนนทบุรี ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายณัชพล เพ็ชรศรี อายุ 25 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮอว์คแมน บริการไล่นกก่อกวน และนางสาววรณิดา ธนัทเดชโสภณ อายุ 27 ปี ผู้จัดการบริษัท ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมและขอคำปรึกษาทางกฎหมายจากนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง สส.พรรคประชาชน เขต 7 จังหวัดนนทบุรี หลังถูกนายพงษ์ศักดิ์ สุขสโมสร พนักงานบริษัท อายุ 45 ปี ก่อเหตุขโมยนกเหยี่ยวสายพันธุ์แฮริสฮอว์ค อายุประมาณ 1 ปี มูลค่าเกือบ 200,000 บาท และปล่อยให้นายบอย บุคคลที่รู้จักกับนายพงษ์ศักดิ์ โดยมีคลิปวิดีโอหลักฐานที่แสดงถึงการรับสารภาพจากนายพงษ์ศักดิ์ว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุ แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าหลังแจ้งความกว่า 3 เดือน โดยยังถูกเจ้าหน้าที่เรียกเงินค่าทำคดี 10,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าน้ำมันในการตามจับคนร้าย นายณัชพล กล่าวว่า ตนเป็รผู้ก่อตั้งบริษัทหยก.ฮอว์คแมน ซึ่งดำเนินงานโดยใช้เหยี่ยวไล่นกพิราบในโรงงานต่าง ๆ เมื่อบริษัทหรือลูกค้าจ้างงาน ตนจะส่งเหยี่ยวพร้อมผู้ดูแลไปทำงานในสถานที่นั้นๆ เมื่อวันที่ 4 ส.ค.67 ตนได้รับรายงานจากลูกจ้างที่ชื่อว่า นายพงษ์ศักดิ์ ซึ่งเป็นพนักงานที่ทำงานในตำแหน่ง พนักงานควบคุมเหยี่ยว แจ้งตนว่ามีเหยี่ยวของบริษัทหลุดหายไปจากบ้านพักที่ใช้เก็บเหยี่ยว ซึ่งตนรู้สึกสงสัย เพราะบ้านพักนั้นมีมาตรการป้องกันแน่นหนา รวมถึงมีอุปกรณ์คล้องขาเหยี่ยวไว้อย่างมั่นคง หลังจากๆด้รับแจ้งตนจึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง จึงพบพิรุธในพฤติกรรมของนายพงศ์ศักดิ์ ลูกจ้างภายในบริษัทที่แจ้งตนว่านกหาย ได้ออกจากพื้นที่ในช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ต่อมาตนได้รับรูปภาพจากเพื่อนในวงการเหยี่ยวซึ่งบอกว่ามีคนพยายามขายเหยี่ยวตัวหนึ่งให้ แต่เหยี่ยวนั้นไม่มีเอกสารหรืออุปกรณ์คล้องขา ตนเห็นภาพแล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นเหยี่ยวของตนที่หายไป จึงรวบรวมหลักฐานและแจ้งความที่ สภ.นครหลวง จังหวัดอยุธยา ในวันที่ 6 ส.ค.67 หลังจากแจ้งความตนได้ตามคดีหลายครั้ง ทางพนักงานสอบสวนแจ้งตนว่าไม่มีงบค่าน้ำมันในการติดตามนก และเรียกเงินจำนวน 10,000 บาทเป็นค่าน้ำมัน ซึ่งตนก็ได้จำใจให้เงินสดเพื่อหวังจะได้เหยี่ยวคืน แต่หลังจากนั้นตำรวจยังไม่ดำเนินการตามนัด ตนจึงต้องรอจนถึงตอนนี้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ไม่มีความคืบหน้า จนสุดท้ายวันนี้ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากทนายโป้ง ส.ส.จังหวัดนนทบุรี เขต 7 ให้ช่วยเรื่องคดี นายณัชพล เล่าต่อว่า ตนเคยมีปัญหากับนายพงษ์ศักดิ์มาก่อน เนื่องจากนกของบริษัทเคยหายไปครั้งหนึ่ง และพบว่านายพงษ์ศักดิ์ติดการพนันและเสพยา อีกทั้งยังสร้างปัญหาเรื่องหนี้สิน จนทำให้ตนต้องรับผิดชอบใช้หนี้ให้หลายครั้ง แต่ก็ยังให้โอกาสจนกระทั่งครั้งนี้ นายพงษ์ศักดิ์ขโมยนกไปจริง แต่ไม่ยอมรับว่าไปขาย อ้างว่าไม่ได้เงิน โดยสาวถึงคนที่ชื่อบอยซึ่งเป็นคนที่รับนกไปจากนายพงษ์ศักดิ์ ตนจึงได้ถ่ายคลิปวิดิโอให้น่ยพงษ์ศักดิ์พูดคุยขอนกเหยี่ยวคืนจากนายบอย แต่ปรากฏว่านายบอยอ้างว่าไปปล่อยนกเหยี่ยวตัวดังกล่าวให้คนอื่นไปแล้ว ยังติดต่อคนที่ปล่อยไปไม่ได้ แถมยังอ้างว่าอาจจะต้องนำเงินไปซื้อกลับคืน ซึ่งในคลิปนายพงษ์ศักดิ์ได้รับสารภาพทุกอย่างผ่านคลิปเสียงว่าทำจริง ตนจึงนำหลักฐานนี้ส่งให้ตำรวจอีกครั้งแต่กลับไม่ได้รับการตอบรับในการดำเนินคดีแต่อย่างใด การที่มาร้องเรียนในครั้งนี้เพราะตนและแฟนสาวนั้นได้รักเหยี่ยวตัวนี้มากตนและแฟนสาวได้ซื้อมาตั้งแต่ตัวเล็ก ราคา 70,000 บาท แล้วทำการฝึกเองจนเก่งสามารถออกงานได้ โดยเหนี่ยวตัวนี้เป็นเหยี่ยวที่ดังมากในโซเชียล ออกรายการดังมาแล้วหลายรายการ และเป็นตัวเดียวในฝูงเหยี่ยวที่ตนรักมากที่สุดมีความผูกพันธ์กับแฟนสาวตนมาก ซึ่งตัวนี้ทำรายได้ให้ตนได้ต่อ 1 เดือนประมาณ 100,000 บาท ตอนนี้ได้หายตัวไปตนสูญรายได้ รวมถึงรักและคิดถึงเนื่องจากกว่าจะฝึกให้เชื่องและมีความสามารถต้องใช้เวลาและความอดทน หากถามถึงราคาขายนกเหยี่ยวหลังจากฝึกพร้อมทำงานได้แล้วราคาตัวนี้ก็จะประมาณ 200,000 บาท ซึ่งตัวนี้หากตนพบตัวจริงตนจำได้หมดว่ามีตำหนิตรงส่วนไหนบ้าง แต่ขอเก็บไว้เป็นความลับก่อน เผื่อคนที่รับซื้อตอนนี้จะไหวตัวแล้วจะกระทำสิ่งที่ไม่ดีกับนกเหยี่ยว ด้านนางสาววรณิดา กล่าวว่า ตนรักและผูกพันกับเหยี่ยวชื่อ “น้องไฟต์เตอร์” มาก หลังจากหายตัวไปตนขับรถตามหาเหยี่ยวอย่างต่อเนื่องจากนครปฐมถึงอยุธยาเป็นเวลานานและเสียค่าใช้จ่ายไปจำนวนมาก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด หากผู้ที่นำน้องไฟต์เตอร์ไปยอมคืนกลับมา ก็อาจจะไม่ดำเนินคดีใดๆ ทั้งนี้ยังหากใครพบเห็นมีรางวัลให้ 100,000 บาท สำหรับผู้ที่นำเหยี่ยวตัวนี้กลับมา เพราะน้องไฟต์เตอร์มีจุดตำหนิที่ตนจำได้ นายเกียรติคุณ หรือทนายโป้ง กล่าวว่า ตนอยากฝากถึงพนักงานสอบสวนว่ากรณีนี้จากที่ตนได้รับเรื่องร้องเรียนดูพยานหลักฐานแล้ว คววรจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาแล้วเนื่องจากมีข้อมูลหลักฐานพอสมควร ถึงขั้นสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้เลย ในความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้างมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี และปรับสูงสุด 1 แสนบาท ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายอ้างว่าตำรวจมีการรับเงินค่าน้ำมันในการจับกุมคนร้าย ตนยังไม่ปักใจเชื่อ จึงอยากฝากถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอยุธยา ให้ลงมาตรวจสอบคดีที่ สภ.นครหลวง ว่าความคืบหน้าเป็นอย่างไร เพราะประชาชนมีความทุกข์ความผูกพันธุ์กับนกเหยี่ยวที่เลี้ยง และฝึกฝนมาตั้งแต่ตัวน้อย และยังเป็นเครื่องมีในการทำมาหากินสร้างรายได้เยอะพอสมควร อย่างไรก็ตามฝากถึงผู้ที่รับซื้อเหยี่ยวตัวนี้ไปไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เนื่องจากไม่ได้เป็นการซื้อขายถูกต้องตามท้องตลาด จะมีความผิดฐาน รับของโจร หากเห็นข่าวนี้ควรนำน้อง “ไฟเตอร์” มาคืน เจ้าของยังบอกอีกว่ามีรางวัลให้จำนวนหนึ่งสำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแส