“บิ๊กเต่า” เผยผลสอบบอสพอลและเหล่าบอสดิไอคอน ชี้เป็นประโยชน์ต่อคดี จ่อประชุมเร่งรัดคดีในวันพรุ่งนี้ เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 6 พ.ย. ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปปป. นำกำลังเข้าสอบปากคำ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล รวมถึงบอสคนอื่นที่ผู้ต้องขังในคดีดิไอคอนกรุ๊ปหลอกลงทุน ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯวันนี้ โดยพล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปปป. ได้เข้าไปสอบปากคำบอสพอล รวมถึงบอสดิไอคอนคนอื่นประมาณ 4-5 ปาก กรณีที่บอสพอลเคยมอบหมายให้ทนายความส่วนตัวแจ้งความเอาผิด น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง กรณีเรียกรับเงิน และ คดีแจ้งเอาผิด นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ในความผิดฐานหมิ่นประมาท , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ จากกรณีกุเรื่องพยานเท็จหลังบ้านดิไอคอน ซึ่งผลการสอบปากคำเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) จะมีการประชุมเพื่อเร่งทำคดีดังกล่าว นอกจากนี้ก็ยังมีการสอบปากคำเพิ่มเติมกับบอสพอล ถึงกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เรียกรับเงินจำนวน 7.5 ล้านบาท โดยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนจะมีการจับกุมเหล่าบอสดิไอคอน แต่ทางบอสพอลยังไม่ได้โอนเงินดังกล่าวไป และในส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบเรียกรับเงินกับนายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือ โค้ชแล็ป ก็ได้มีการเข้าไปสอบโค้ชแล็ปและบอสพอลเพิ่ม โดยทั้งสองคนก็ยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเรียกรับเงินแต่อย่างใด สำหรับที่มีเส้นเงินไปถึงแม่ของนักการเมือง ส.เสือ ก็มีการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ามีเงินไปถึงประมาณ 6-7 แสนบาท แต่ยอดเงินยังไม่นิ่ง โดยเงินดังกล่าวมีการอ้างว่าเป็นเงินทำบุญ ที่มีการโอนให้แม่นักการเมืองส.เสือ และหลังจากนั้นก็มีการโอนต่อไปให้ยัง ส.เสือ อย่างไรก็ตามต้องรอให้ยอดเงินนิ่งก่อน จึงจะเข้าไปสอบบอสพอลเพิ่มและเรียกตัวนักการเมือง ส.เสือ มาสอบ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากนักการเมือง ส.เสือ มีผู้มีอิทธิพลคอยหนุนหลัง จะทำให้มีผลกับการดำเนินคดีหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า ที่นี่มีแต่เรื่องของกฎหมาย และอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน หากพบว่าผิดก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง