ปทุมธานี เจ้าของบ่อปลายิงคนงานก่อสร้างสาหัสเข้ามาหาปลา
เมื่อเวลา 19.15 น.วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ร.ต.อ.สิงหา สิงหาชาลี รองสว.(สอบสวน) สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย แคมป์คนงานก่อสร้างถนนเลียบคลองสองฝั่งตะวันตก หมู่5 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รองผกก.สอบสวน สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.กวินเวทย์ วิริยะสิริภักดี รอง ผกก.ป.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ
ในที่เกิดเหตุเป็นซอยไม่มีชื่ิอหน้าแคมป์คนงานก่อสร้างพบเพียงกองเลือดตกอยู่ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด9 มม.ตกอยู่ 2 ปลอก หัวกระสุนปืน 9 มม.1 นัด มีดหวดดายหญ้าตกอยู่ใต้ท้องรถยนต์กระบะ 1 เล่ม
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกั้นที่เกิดเหตุไว้รอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงทราบว่าหัวหน้างานของแคมป์นำส่งรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อนายปณชัย แก้วดีหรือเต้ย อายุ 22 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ท้ายทอย อกขวา ต้นขาซ้ายอาการสาหัส
ต่อมา พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ได้ควบคุมตัวนายกำธร หรือแดง อายุ 52 ปี ผู้ใช้อาวุธปืนยิงที่รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด9 มม.มีทะเบียน 1 กระบอกเครื่องกระสุนจำนวน 6นัดไปทำการสอบปากคำอย่างละเอียดที่ สภ.คลองหลวง
นายกำธร หรือแดง ให้การว่า ช่วงเย็นตนเองนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้านซึ่งไม่ไกลจากแคมป์คนงานก่อสร้างที่ผู้ได้รับบาดเจ็บพักอยู่ก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่าในสวนซึ่งตนเองปล่อยปลาเลี้ยงไว้หลายพันธุ์ชนิด เมื่อออกไปดูก็เห็นคนงานก่อสร้างฉายไฟอยู่ในสวน ตนเองจึงไปไล่แต่คนงานก่อสร้างไม่ยอมกลับ ตนเองจึงเข้ามาบ้านเพื่อหยิบปืนและยิงขู่ลงน้ำไป2นัดเพื่อไล่เขาแต่คนงานที่แคมป์ได้ออกมาว่ามีเรื่องอะไรกัน ขณะยืนคุยกันมีคนงานก่อสร้าง 2 คนก็เข้ามาล๊อคคอต่อยตนเองและเกิดการปลุกปล้ำกันจนล้มกลิ้ง ตนเองเมื่อหลุดออกมาได้จึงถอยหลังตั้งหลัก แต่อีกฝ่ายได้วิ่งเข้าหาอีกตนเองจึงยิงใส่ไป3นัด จนคนงานล้มลงจึงหยุดโดยทั้งหมดรุมทำร้ายตนเอง ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อนและไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ทางด้านร.ต.อ.สิงหา สิงหาชาลี รองสว.สอบสวนสภ.คลองหลวง ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพเป็นหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคลและให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บพยานหลักฐานอย่างละเอียดเพื่อใช้ประกอบคดีและจะได้สอบปากคำผู้ก่อเหตุและคู่กรณีเพื่อหาสาเหตุและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทางกฏหมายต่อไป