เมื่อวันที่ 3 พ.ย.พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รรท.ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต. วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4
พ.ต.ท.ปุรเชษฐ์ รัตนวิจิตร รอง ผกก.4 บก.สอท.4
นำกำลังจับกุม น.ส.พัณณิตา เหรัญญิก อายุ 21 ปี ชาวจ.นครสวรรค์ และนายนันทภพ ทับทอง อายุ 25ปี ชาวจ.พิจิตร ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงรายที่ 891-892/2567 ลงวันที่ 30 ต.ค. ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยจับกุมได้ที่บ้านพักใน อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์
สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่เร่งรัดสั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ทางบช.สอท. จึงได้ทำการสืบสวนจนพบว่า มีกลุ่มคนร้ายแอบอ้าง ชักชวนให้ร่วมบริจาคเพื่อซ่อมแซมบูรณะวิหารหลวงลายคำ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายมีพฤติกรรมโพสต์ข้อความเชิญชวนผ่านเฟชบุ๊กให้ร่วมบริจาคเงินบูรณะซ่อมแซมวิหารหลวงลายคํา โดยแอบอ้างใช้ชื่อบัญชีแอบอ้างว่าเป็นคณะกรรมการของทางวัดขอเปิดรับบริจาค จนมีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางบช.สอท.ทราบเรื่องได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าบัญชีปลายทางระบุชื่อน.ส.พัณณิตา เหรัญญิก และไม่มีความเกี่ยวข้องกับทางวัดแต่อย่างใด จึงทำการแกะรอย จนพบว่ามีการไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มตามละแวกต่างๆในพื้นที่จังหวัดพิจิตรและจ.นครสวรรค์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อ ขอศาลออกหมายจับกระทั่งชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมได้ที่
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าได้ร่วมกันก่อเหตุจริงโดยนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และหากมี ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกก็ปิดเพจหนีและเปิดเพจใหม่ นอกจากนี้จากแนวทางสืบสวนยังพบว่า มีการเปิดบัญชี เฟชบุ๊กโพสต์ประกาศรับบริจาคในกลุ่ม
เฟชบุ๊กชื่อกลุ่ม“กลุ่มข่าวคนโคราชบ้านเอ็ง”
รับบริจาคให้ ด.ช.วัย 3 ปีซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็ง และขอรับบริจาคช่วยพระที่นอนอาพาธในโรงพยาบาลโดยใช้บัญชีธนาคารน.ส.พัณณิตา ในการรับบริจาคเช่นเดิม ทั้งนี้พบยอดเงินหมุนเวียนจากทำแต่ละครั้งอยู่ประมาณหลักหมื่นบาท เสียหายรวมมากกว่า 2 แสนบาท
จากนั้นชุดจับกุมตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปยังวัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย เพื่อขอขมากรรมกับครูบาอริยชาติ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป