นนทบุรี ต่อข่าว เปิดใจนายบัง เข้าพบตำรวจอ้างปืนจ่อหัวรปภ. เป็นปืนปลอม เชื่อว่าเพื่อนตำรวจจะถูกทำร้ายแต่เป็นการเข้าใจผิด จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทในหอพักแห่งหนึ่ง บริเวณซอยติวานนท์ 43 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี โดยเริ่มต้นจากกลุ่มวัยรุ่นหญิงที่มีปากเสียงกัน ก่อนที่นายก้อง ชายวัยรุ่นที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ จะเข้ามาข่มขู่ด้วยการชักปืนจ่อชายวัยรุ่นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ทำให้เกิดความตึงเครียดในสถานการณ์ ต่อมา นายพงศ์พันธ์ บุณยกะลิน หรือโอ๊ต อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของหอพัก ได้เข้ามาห้ามปรามเหตุการณ์ แต่ถูกนายบัง ซึ่งเป็นชายอีกคนหนึ่งในกลุ่ม ชักปืนจ่อศีรษะข่มขู่ นายโอ๊ตจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากผู้ก่อเหตุทั้งสองอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและใช้อาวุธปืนข่มขู่ประชาชน ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่สถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ ร.ต.อ.ปิยะวัฒน์ นามมะ รองสารวัตร (สอบสวน) ได้เชิญนายก้อง ซึ่งเป็นตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ คอมมานโด เดินทางมาพร้อมกับนายบัง อายุ 33 ปี และนายพงศ์พันธ์ บุณยกะลิน หรือโอ๊ต อายุ 43 ปี ผู้เสียหาย เข้าพบเพื่อพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยในชั้น 3 ห้องสอบสวน นายบังเปิดใจว่า ในขณะเกิดเหตุ ตนได้ไปซื้อหมาล่ากับนายก้องซึ่งเป็นตำรวจ จากนั้นมีเพื่อนผู้หญิงของนายก้องโทรหาว่าถูกผู้ชายทำร้าย นายก้องจึงตัดสินใจไปตามหาตัวและมาเคลียร์เหตุการณ์ที่หอพักกับนายบัง ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปตามกล้องวงจรปิด โดยนายก้องพยายามดึงตัวชายเสื้อดำที่ทำร้ายผู้หญิงเพื่อไปเคลียร์กันข้างนอก เพราะเกรงใจคนที่อยู่ในหอพัก แต่ชายเสื้อดำกลับขัดขืน จนเกิดความชุลมุนกันตามคลิป ขณะที่กำลังดึงตัวชายเสื้อดำออกมา ตนได้เห็นนายโอ๊ต ซึ่งเป็นรปภ.เดินเข้ามาหา โดยที่นายโอ๊ตไม่ได้แต่งตัวเป็นรปภ. ทำให้ตนเห็นท่าไม่ดี เกรงว่านายก้องเพื่อนจะโดนทำร้าย เนื่องจากในขณะนั้นมีเพียงตนกับนายก้องเท่านั้นที่อยู่ในสถานการณ์ จึงคิดว่ารปภ.จะเข้ามาแย่งปืนของนายก้อง นายบังกล่าวต่อว่า ตนจึงตัดสินใจชักปืนโมเดลที่พกไว้ซึ่งไม่ใช่ปืนจริง แต่ใช้ในการป้องกันตัวขณะทำงานเป็นไรเดอร์ในเวลากลางคืน มาจ่อหัวนายโอ๊ต และหลังจากนั้นได้มีการพูดคุยกัน จนทราบว่านายโอ๊ตคือรปภ.ที่เข้ามาห้ามปรามไม่ให้มีเรื่องกัน หลังจากนั้นตนจึงรีบขอโทษและยกมือไหว้ เพื่ออธิบายว่าตนเข้าใจผิด นายบัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยืนยันว่าตนเป็นเพียงเพื่อนของนายก้อง ไม่ได้เป็นตำรวจตามที่เข้าใจ และขอให้สังคมฟังความสองด้าน อย่าด่วนตัดสิน เพราะตนมีเจตนาเพียงแค่เห็นเพื่อนจะถูกทำร้าย จึงนำปืนปลอมไปขู่เท่านั้น โดยวันนี้ตำรวจได้เรียกเขามาสอบสวน จึงรีบมาพบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยืนยันว่าเขาไม่รู้จักใครนอกจากนายก้อง ส่วนคนอื่นตนไม่รู้จักเลย วอนสังคมให้เข้าใจในมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้


