ตำรวจ ปปป. ดำเนินคดี 2 ปลัดสุรินทร์ ร่วมอาสา อุ้มซ้อมรีดเงินผู้ต้องหาขยายงานยาเสพติด
วันที่ 1 ส.ค. ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายชยพล อายุ 40 ปี พร้อมด้วย นายอธิวุฒิ อายุ 38 ปี ปลัดอําเภอเมืองสุรินทร์ และ จ.ส.อ.ณัฐพล ไพเราะ อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.สุรินทร์ และ กลุ่มเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกองอาสารักษาดินแดน รวม 12 คน เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. และพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา “เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียกรับทรัพย์สิน และ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ”
สำหรับการเชิญตัวผู้ต้องหาทั้ง 12 คน มารับทราบข้อกล่าวหา เป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 ได้มีผู้เสียหายจำนวน 2 คน เข้าร้องเรียนต่อ บก.ปปป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมหลังถูกกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่สมาชิกอาสารักษาดินแดน จับกุมพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 20 เม็ด ก่อนพาไปที่ หอประชุม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เพื่อเค้นถามให้ยอมบอกแหล่งที่ซื้อยาเสพติดมา ซึ่งผู้เสียหายเองก็ยอมเปิดปาก แต่เมื่อไม่สามารถขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดเพิ่มได้ ผู้ต้องหากลุ่มนี้กลับใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ก่อนร่วมกันบังคับให้ผู้เสียหายนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินสดออกมาให้จำนวน 9,500 บาท เพื่อนำไปซื้ออาหารเครื่องดื่มมานั่งดื่มกินกัน
ก่อนจะทำทีบอกกับผู้เสียหายว่า หากสามารถแจ้งเบาะแสขยายผลจับกุมขบวนการค้ายาเพิ่มได้ จะยอมปล่อยตัวกลับ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ ก่อนโทรศัพท์ติดต่อให้ น.ส.จี (นามสมมุติ) แฟนสาว ให้มาพบเพื่อช่วยคิดหรือให้การช่วยเหลือ แต่เมื่อ น.ส.จี มาถึง กลับถูกหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร กระทำอนาจารด้วยการใช้มือจับหน้าอกและบังคับจะให้อมอวัยวะเพศ พร้อมยังข่มขู่อีกว่าหากไม่ยินยอมจะไม่ปล่อยตัวแฟนหนุ่ม เมื่อกลับมาถึงที่กองร้อยอาสาฯ น.ส.จี จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ด้วยความที่แฟนหนุ่มเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงได้ไล่ให้ น.ส.จี กลับบ้านไป แต่ระหว่างที่ น.ส.จี กำลังเดินออกไปด้านหน้ากลับถูกเจ้าหน้าที่อาสาสมัครอีกราย ตามมาใช้กำลังประทุษร้ายบังคับข่มขืนที่บริเวณป้อมรักษาการณ์ ซึ่งหลังเกิดเรื่อง น.ส.จี จึงเข้าแจ้งความในคดีถูกข่มขืนไว้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ ส่วนแฟนหนุ่มหลังได้รับการประกันตัวออกมาจึงนำเรื่องเข้าร้องขอความเป็นธรรมไว้ที่ บก.ปปป. ซึ่งหลังรับเรื่อง ตำรวจ บก.ปปป. จึงดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ก่อนพบว่านอกจากกรณีดังกล่าวแล้ว ยังพบว่าผู้ต้องหายังได้มีพฤติกรรมข่มขู่เรียกเงินผู้กระทำผิดในคดียาเสพติดเพื่อแลกกับการปล่อยตัวไม่ถูกดำเนินคดีอีกหลายเคส จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนออกหมายเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดมาเข้าพบเข้ารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว
ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 12 ราย เบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบ ก่อนปล่อยตัวกลับไป โดยนัดหมายให้มาเข้าพบอีกครั้งที่สำนักงานอัยการ