ต่อข่าว แม่ค้าโต้หินในท้องกบ กบราคาไม่แพงใครจะทำ ย้ำไม่ทำร้ายอาชีพตัวเองด้วยกำไรไม่กี่บาท
นนทบุรี วันที่ 29 ก.ค.2565 เวลา 14.00 น.จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งโพสข้อความระบุว่า “เตือนภัยสังคม ตอนเย็นไปซื้อกบตลาดวัดไทรใหญ่แต่สิ่งที่เจอมีหิน3ก้อนในเครื่องใน แบบนี้ปกติไหมครับ ก้อนใหญ่เอาเรื่อง ขอคำแนะนำหน่อยครับ (ซื้อแบบชำแหละมาแล้ว)” ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านขายกบบริเวณตลาดนัดหน้าวัดไทรใหญ่ ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยที่ตลาดดังกล่าวมีร้านขายกบอยู่ทั้งหมด 2 ร้านด้วยกัน
น.ส.อรอุมา บุญประคอง (สวมเสื้อสีขาว ลายน้ำเงิน)อายุ 42 ปี เจ้าของร้าน ปลาสด ปลาเค็มสุพรรณ เปิดร้านขายอยู่ในตลาดวัดไทรใหญ่มากว่า 25ปี กล่าวว่า จากกรณีที่มีคนโพสลงในโลกโซเชียลถึงเรื่องมีหินอยู่ในท้องกบ ตนก็มาทราบข่าวจากคนในตลาดและก็ไม่รู้ว่าคนโพสซื้อกบจากร้านไหน เพราะที่ตลาดมีอยู่2ร้าน แต่กบที่ร้านเนี้ยไม่ได้ยัดหินหรอก ไม่ทำให้ตลาดเสียชื่อหรอกที่ร้านตนขายกบตายซึ่งรับมาจากพ่อค้าคนกลางอีกที ถ้าจะมีหินอยู่ข้างในเราก็ไม้รู้หรอก เพราะตอนที่กบยังไม่ตายมันอาจจะกินหินเข้าไปได้ถ้าถูกเลี้ยงในบ่อดิน กบที่ตนรับมาก็แค่ถูกผาท้องมาอย่างเดียวยังไม่ได้ชำแหละแค่ผ่าท้องมาเอง เครื่องในก็ยังอยู่ถ้าจะมีหินก็จะอยู่ในลำไส้กบ ฉะนั้นเวลาลูกค้ามาซื้อเสลาเขาเลือกเขาต้องรู้อยู่แล้วว่ามีหินอยู่ในท้องกบหรือไม่ หรือลูกค้าบางคนมาซื้อก็ให้ที่ร้านชำแหละให้ ถ้ามีหินที่ร้านจะเอาออกให้เลยๆม่มีทางให้ลูกค้าไปแบบนั้นแน่ๆ แต่ถ้าลูกค้าอยากเอาไปทั้งตัวไปชำแหละเองก็อาจจะเจอหินได้แต่คงไม่ทุกตัวหรอก และเป็นไปไม่ได้เลยที่พ่อค้าแม่ค้าจะยัดหินลงไปถึงกระเพาะอาหารของกบ ถ้าจะยัดก็ได้เต็มที่แค่ตรงคอกบเท่านั้นเอง แต่ถ้ากบยังไม่ตายก็มีโอกาสที่จะกลืนหินลงไปถึงกระเพาะได้ ตนขายกบกิโลละ 120 บาท และกบที่นำมาขายน้ำหนักตัวจะอยู่ที่ประมาณ 4 -5ขีด ต่อ1 ตัว ซึ่งราคานี้ไม่แพงจะยัดหินทำไม ไม่ได้กิโลเป็นพันที่จะยัดหินแล้วเพิ่มกำไรได้เป็นร้อย คาดว่าคนโพสจะกลั่นแกล้งมากกว่าทำให้ตลาดนัดเสียชื่อ ยืนยันว่าที่ร้านไม่ได้ยัดหินแน่นอน
ทางด้าน นาย พรเทพ ภิรมย์นิ่ม (สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน)อายุ 34 ปี เจ้าของร้าน กรปลาสด เปิดร้านขายมากว่า 10 ปี กล่าวว่า กบแต่ละพื้นที่เลี้ยงไม่เหมือนกัน ถ้าเลี้ยงในกระชังก็จะไม่มีหิน แต่ถ้าเลี้ยงตามบ่อตามนามีหินแน่นอน สำหรับที่ร้านตนขายกบเป็น ซึ่งก่อนจะนำมาขายจะต้องให้กบอดอาหารก่อน แต่ก็อาจจะมีของตกค้างอยู่ข้างในเช่นหิน หรือ ฟองน้ำ บางครั้งเจอซากกบอยู่ข้างในท้องก็มี เพราะมันกินกันเองถ้ามันหิวมากๆ และไม่มีอาหาร แต่ในกรณีที่มีคนโพสทำให้อาชีพของเรามันเสียหาย ซึ่งตอนนี้กำไรมันอยู่ได้ไม่มีใครเขามาทำแบบนี้กันหรอก มันไม่มีใครเอาอาชีพตัวเองมาฆ่าตัวเองหรอก และที่ตลาดแห่งนี้เขาไม่เคยมีเรื่องทำนองนี้มาก่อน ซึ่งตนเป็นพ่อค้ามาหลายปี มีจรรยาบรรณของพ่อค้าอยู่ไม่เอาเปรียบหรือโกงลูกค้าแน่นอน
ทางด้าน นาย เจด็จ พลเสน (สวมเสื้อสีส้ม)อายุ 53 ปี ลูกค้าที่เข้ามาซื้อของที่ตลาแแห่งนี้เป็นประจำ กล่าวว่า ธรรมชาติกบมันกินหินได้ มันไม่จำเป็นหรอกใครจะไปยัดหิน กบมันราคาไม่กี่ตังค์ มันไม่ใช่กุ้ง กบมันราคา60-70บาท หิน3ก้อนมันจะเพิ่มราคาได้กี่บาทเชียว เขาจะไปยัดทำไม ส่วนตัวแล้วไม่เชื่อว่าพ่อค้าแม่ค้าจะยัดหินเข้าไปในท้องกบ หิน3ก้อนจะเพิ่มราคาได้กี่ตังค์เชียว และหินก้อนเท่านิ้วก้อย ไม่ทำให้ตลาดหมดความน่าเชื่อถือไปได้หรอก ตนก็ยังเข้ามาซื้อของที่ตลาดปกติ และขอเชิญชวนให้มาซื้อของที่ตลาดกันเหมือนเดิม พ่อค้าแม่ค้าเขาไม่มาโกงกันหรอกเงินแค่ไม่กี่บาท.
นาย เชาว์ ศรีม่วง อายุ 74 ปี (สวมเสื้อสีม่วง)ผู้ดูแลตลาดกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นคนจัดการตลาดนัดแห่งนี้มาร่วม30ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เขาจะรู้ตัวไหมว่าเขาทำให้ตลาดเสียหายแค่ไหน เพราะตนจะคอยดูแลพ่อค้าแม่ค้าทุกแผงไม่ให้เอาของไม่มีคุณภาพมาลงขายเด็ดขาด ส่วนตัวแล้วอยากจะเจอผู้ที่โพสเรื่องดังกล่าวมาก เพื่อให้มาช่วยยืนยันว่ามาซื้อจากร้านไหน มาคุยกันให้เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร แล้วไปโพสแบบนี้ตลาดเสียหาย