นนทบุรี วงจรปิด สัสดีร้องสื่อ กระบะซิ่งปาดหน้าชนคุณพ่อวัย 74 ปี ขี่จยย.ล้มกระแทกพื้น ขับหนีไม่รับผิดชอบ เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 9 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากร.ท.ณัฐศักดิ์ ผึ้งแสง อายุ 40 ปี สัสดีอำเภอบางบัวทอง หลังจากคุณพ่อนายบุญเชิด ผึ้งแสง อายุ 74 ปี ได้ขับขี่รถจยย.ขณะมาถึงบริเวณสะพานข้ามคลองบางสีทอง ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้ถูกรถกระบะสีบรอนซ์ไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียนขับเฉี่ยวชนแล้วหนี จนได้รับบาดเจ็บบาดแผลถลอกทั่วร่างกาย โดยมีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือก่อนประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลบางกรวย ร.ท.ณัฐศักดิ์ กล่าวว่า ตนความรู้สึกเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ผู้ขับรถกระบะซึ่งเป็นคู่กรณี ไม่ได้มีความรับผิดชอบหรือจิตสำนึกที่จะหยุดรถลงมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเลย แม้จะไม่รุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ทำให้เกิดบาดแผลทางร่างกายและจิตใจต่อครอบครัว ซึ่งตนมองว่าผู้ก่อเหตุไม่ควรจะหลบหนีเช่นนี้ หากมีความรับผิดชอบออกมายอมรับผิดและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ อย่างน้อยก็แสดงถึงความมีจิตใจที่ดี ร.ท.ณัฐศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนและครอบครัวกำลังดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่เกิดเหตุ โดยได้ทราบรุ่นและลักษณะของรถกระบะที่ก่อเหตุแล้ว แต่อยู่ในระหว่างการติดตามหาทะเบียนรถที่ยังไม่ชัดเจนอย่างเต็มที่ ครอบครัวยืนยันว่าจะไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยไม่มีการรับผิดชอบใดๆ และจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายให้ถึงที่สุดเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมขอความร่วมมือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุเพื่อให้เขารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้เรียกร้องอะไรมากไปกว่าการที่ผู้ก่อเหตุควรมีความรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นและแสดงความห่วงใยต่อผู้บาดเจ็บ นายบุญเชิด กล่าวว่า วันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. ตนกำลังขับรถจยย.กลับบ้านหลังจากไปซื้อของ ระหว่างที่ถึงสะพานข้ามคลองบางสีทองได้ขับรถอยู่ในช่องทางซ้ายตามปกติ แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดคิดเมื่อรถกระบะคันหนึ่งพยายามจะแซงรถของตนทางด้านขวา แต่แซงไม่พ้น ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนกับจักรยานยนต์ของตน ตามที่ตนเห็นทางรถกระบะได้ปาดหน้าและเฉี่ยวบริเวณแฮนด์รถ ทำให้จักรยานยนต์ของตนล้มลง จากนั้น คนรถกระบะที่ก่อเหตุกลับขับรถหนีไปโดยไม่ลงมาดูหรือช่วยเหลือตนแต่อย่างใด จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน หน้า และหัวเข่า มีแผลถลอกหลายจุด และต้องเข้ารับการรักษาและทำแผลที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่ต้องรับผิดชอบเองเป็นเงินกว่า 1,000 บาท ทั้งยังต้องทนกับอาการปวดและบาดแผลที่เกิดขึ้น
