อำนาจเจริญ(ต่อข่าว) ผอ.รร.ลั่นสนามฟุต รับทุกข์เวทนาจากการประหารชีวิต ด้วยโทษทางวินัยที่ตนเองไม่ได้ก่อขึ้น
จากกรณีที่ผอ.ครูในโรงเรียนยังหวาดผวากรณีทุจริตสนามฟุตซอล หลังศาลฎีกาตัดสินลงดาบจำคุก อดีต สส.สมหญิง บัวบุตร ไม่กล้าแตะต้องสนามหวั่นมีความผิด วอนผู้มีอำนาจสั่งการให้กระจ่างชัดเจนมาด้วย
ชึ่งสืบเนื่องจากที่ศาลฎีกามีคำสั่งจำคุก นางสมหญิง บัวบุตร อดีต สส.อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย เป็นเวลา 3 ปี 4เดือน รอลงอาญา คดีทุจริตสนามฟุตซอลตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ 7 กันยายน2567 นายสุกิจ ุ จันทบาล ผู้อำนวยการโรงเรียนอำนาจเจริญ กล่าวว่า “การก่อสร้างสนามฟุตซอล” เป็นเรื่องสะเทือนใจต่อคนวงการศึกษาอย่างยิ่ง เพราะคนที่ได้รับเคราะห์กรรมจากโครงการฯ คือครูและผู้บริหารโรงเรียนที่ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง ทั้งที่ไม่มีส่วนรู้เห็นต่อการกระทำใดๆที่มิชอบทั้งสิ้น ถ้าเราตั้งสติคิดสักนิดแล้วตั้งคำถามตอบว่า “โครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลดังกล่าวเกิดมาจากใคร?……ใครหรือท่านใดหน่วยงานใดริเริ่ม?….ใครท่านใดหน่วยงานใดจัดงบประมาณมา?…..งบมาถึงโรงเรียนอย่างไร?…..สุดท้ายเรารู้อย่างเดียวว่า เพื่อนครู เพื่อน ผอ. จากโรงเรียนต่างๆที่ได้รับงบประมาณ รับกรรมโดย ปปช.ชี้มูล หน่วยงานราชการจึงมีคำสั่งต้องสั่งปลดออกก็มี ไล่ออกก็มี….ที่น่าสะเทือนใจมากๆครับ คือท่านที่โดน ปปช. ชี้มูล นั้นเป็นคนดี เป็นที่เคารพนับถือ เป็นหลักคิดในเชิงบริหารการศึกษา เป็นผู้มีภูมิธรรม ภูมิรู้ ทั้งสิ้น. พลาด…เพียงแค่…”ต้องการสนามฟุตซอลมาบริการให้ลูกหลานเด็กๆนักเรียนในโรงเรียนที่ตนบริหารอยู่ได้เล่นได้เรียน” ตัวผมเองเมื่อครั้งอยู่โรงเรียนศรีคูณวิทยบัลลังก์ ก็เคยฝันเคยคิดอยากได้สนามฟุตซอล มาให้ลูกหลานเด็กๆนักเรียนและพี่น้องชุมชนได้เล่นได้เรียนเหมือนกัน ก็เคยเสนอความต้องการไป แต่ไม่ได้รับการพิจารณา. ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจจากก้นบึ้งจิตของผู้บริหารและคุณครู ที่ต้องการสนามฟุตซอลมาให้ลูกหลานเด็กๆนักเรียนเท่านั้นครับ. ไม่เคยคิดล่วงไปถึงประโยชน์อื่นใดทั้งสิ้น. ท่านผอ,ครู หลายสิบ หลายร้อยครอบครัว ได้รับทุกขเวทนาจากการประหารชีวิตด้วยโทษทางวินัย…ที่ตนเองมิได้ก่อ..มันเป็นเรื่องที่หดหู่ยิ่งนัก ตนขอฝากไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจสั่งการให้มองจุดนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในพื้นที่จังหวัด อำนาจเจริญ โรงเรียนที่ได้รับ จัดสรรสนามฟุตซอล รวมทั้งสิ้น12 โรงเรียนชึ่งได้แค่บะโรงเรียนเป็นเม็ดเงินไม่เท่ากัน บางโรงได้3 ล้านบางโรงเรียนได้5ล้านบางโรงเรียนได้6ล้านบวกกับสยามวอลเล่ย์บาล หรือสนามบาสเกตบอล ขึ้นอยู่กับโรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนขนาดเล็กขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ชึ่ง เป็นโรงเรียนประถมศึกษา จำนวน 9 โรงเรียน ทั้ง 9 โรงเรียนนี้ ไม่ได้เบิกเงินให้ผู้รับเหมาจึงรอดตัวไป ส่วนโรงเรียนมัธยมศึกษา มีทั้งหมด 3 โรงเรียน ได้ทำเรื่อง ตรวจรับและเบิกเงินให้ผู้รับเหมา ทั้ง 3 โรงเรียน จึงโดนคดีเต็มๆ ไปทั้ง 3 โรงเรียน มี 2โรงเรียน ที่ผู้บริหาร มีปัญหาอัดอั้นในชีวิต และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน โรงเรียนที่ 3 ได้มีคำสั่ง ให้ออกจากราชการ จนถึงเท่าทุกวันนี้ ทั้งๆที่ ผู้บริหารคนนี้เป็นคนดี ซื่อสัตย์ เป็นผู้บริหารที่มีคุณภาพ ต้องมาโดนคดี โดยที่ตนไม่ได้ก่อขึ้น นับจากวันเกิดคดี จนถึง ขณะนี้ ท่านก็จะอายุครบ 60 ปีพอดี นับว่าเป็นเรื่องที่หดหู่ และเศร้าสลดใจ ยิ่งนัก ความคืบหน้า ของสนาม ฟุตซอล ตามโรงเรียนต่างๆ ขณะนี้ ได้ชำรุดไปตามกาลเวลา ซึ่งทางโรงเรียน ไม่กล้าเข้าไปแตะต้อง หรือก่อสร้างอะไร เนื่องจากเกรงว่าจะมีความผิด เพราะคดี ในศาลยังไม่สิ้นสุด ผู้บริหารครูทุกคน บอกผ่านผู้สื่อข่าวว่า ทางราชการ ทางกรม มีโครงการอะไรดีๆ ลงมาสู่โรงเรียน ก็ควรชี้แจงให้ชัดเจน ให้ความกระจ่าง กับครู และผู้บริหารของโรงเรียน ซึ่งจะไม่เกิดเหตุการณ์ สลดใจเช่นนี้ ขึ้นได้อีกต่อไป เพราะการรับราชการครู เป็นผู้ให้ อบรมสั่งสอน เด็ก ให้เจริญก้าวหน้ามีความรู้ ความสามารถ และเป็นคนดี ในสังคม ครูไม่มีความรู้ เรื่องงาน รับเหมา เรื่องการก่อสร้าง แต่อย่างไร หากจะให้โครงการดีๆอะไรมา ให้กับทาง โรงเรียน ก็ให้ตรวจสอบ ให้ถูกต้อง อย่าให้ครูต้องเป็นแพะรับบาป กับกรรม ที่ตนไม่ได้ก่อขึ้น ครูบางราย ผู้บริหารบางรายไม่เสียชีวิต ถูกให้ออก หรือถูกไล่ออก ทำเอาชีวิตทั้งชีวิต ต้องตายทั้งเป็น ฝากถึง ผู้หลักผู้ใหญ่ มอง ตรงจุดนี้ด้วย/
ภาพข่าว/ นายทิพกร หวานอ่อน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอำนาจเจริญ รายงาน
