นนทบุรี คุณตาวัย 74 ปี ดีใจสุดๆหลังทำเงินในกระเป๋าตังค์หาย เกือบครึ่งหมื่นสาวโรงพยาบาลดังเก็บได้ส่งให้ตำรวจก่อนมารับคืน
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 30 สิงหาคม 67 ที่สภ. เมืองนนทบุรี นายธนิน ธนวัฒน์จินดา อายุ 74 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต. ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว.(สอบสวน) เพื่อขอรับมอบกระเป๋าใส่สตางค์ ภายในมีเงินสดจำนวน 4,020 บาท บัตร ATM บัตรประชาชน และเอกสารสำคัญ พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เก็บกระเป๋าสตางค์ของตนและติดต่อให้มารับคืนในครั้งนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบถามด้วยวาจาว่าเงินในกระเป๋ามีเท่าไหร่ เจ้าของกระเป๋าชื่ออะไร ทำหายที่ไหน ซึ่งคุณตาธนิน ได้ให้ข้อมูลอย่างถูกต้อง
ทาง พ.ต.ต.ฐิติปกรณ์ จึงได้มอบกระเป๋าสตางค์พร้อมเงินสดและเอกสารสำคัญทั้งหมดให้กับคุณตาธนิน พร้อมต่อสายให้พูดคุยกับ นางสาว นรินทร์ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ สาขาเวสเกตุ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเสริมความงามชื่อดังและเป็นพลเมืองดีที่เก็บกระเป๋าสตางค์ได้ บริเวณแถวสะพานพระราม 5 โดยคุณลุงธนินได้ยกมือไหว้ผ่านโทรศัพท์มือถือและกล่าวขอบคุณนางสาวนรินทร์ ที่มีน้ำใจส่งคืนทรัพย์สินมีค่าที่เก็บได้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนส่งมอบให้กับตนในครั้งนี้
พ.ต.ต.ฐิติปกรณ์ กล่าวว่า ช่วงเวลา 22.00 นของคืนวันที่ 24 สิงหาคม 67 พลเมืองดีคือนางสาวนรินทร์ ได้นำกระเป๋าสตางค์ มามอบให้กับตนเองขณะเข้าเวร ปฏิบัติหน้าที่บน สภ.เมืองนนทบุรี โดยแจ้งว่าเก็บกระเป๋าสตางค์ได้แถวเชิงสะพานพระราม 5 จึงได้มาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตามตัวเจ้าของกระเป๋ามารับทรัพย์สินคืน ตนเองตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนราษฎร์ พบว่า คุณตาธนินเป็นเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวจึงได้โทรติดต่อไปหลายสิบครั้งแต่ไม่มีคนรับสาย จึงตรวจสออบทางข้อมูลทะเบียนราษฎร์อีกครั้งและแจ้งให้กับลูกชายได้ทราบ เพื่อให้แจ้งต่อไปยังคุณพ่อว่ากระเป๋าสตางค์ที่ทำหล่นหายอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว จนกระทั่งวันนี้ เจ้าตัวจึงเดินทางมารับกระเป๋าสตางค์คืน ทางตำรวจได้ใช้โทรศัพท์มือถือของต่อหาทางพลเมืองดี คือคุณนรินทร์เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุย ซึ่งคุณตาธนินก็ได้ขอบคุณพลเมืองดี ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับคนที่ตั้งใจทำความดี
ทางด้านคุณตาธนิน เล่าว่า วันเกิดเหตุตนได้ไปทำธุระแถวสะพานพระราม 5 แล้วได้ทำกระเป๋าสตางค์หล่นหายไม่รู้ว่าที่ไหน ตรงไหน ตอนนั้นตนมีแค่เศษเหรียญในกระเป๋าที่สามารถนั่งรถเมล์กลับบ้านย่านราชพฤกษ์ได้ ส่วน บัตรประชาชนและเอกสารสำคัญรวมทั้งเงินสดเกือบครึ่งหมื่นที่ลูกสาว-ลูกชายให้ไว้ใช้ ตนคิดว่าคงไม่ได้คืน “ไม่อยากจะเชื่อว่า สังคมบ้านเรายังจะมีพลเมืองดีที่มีจิตใจงดงามหลงเหลืออยู่ ตนจะถือเป็นแบบอย่างหากวันใดตนเก็บเงินได้แบบนี้ตนก็จะนำไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามเจ้าของเงินมารับกลับคืนไป ตนฝากสื่อมวลชนเป็นตัวแทนเพื่อขอบคุณ ไปยังคุณนรินทร์ พลเมืองรายนี้อีกครั้งด้วย” คุณตาธนิน กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจก่อนเดินลงจากโรงพักกลับที่พักไปในเวลาต่อมา
