“สธ .”ขอหนังสือที่ส่งถึง ตร.คืนสั่งให้จับกุมผู้ขาย-แปรรูปกัญชา ฐานไม่ขออนุญาต 4 ฐานความผิด
แจง ขอกลับมาทบทวนเพื่อให้มีความชัดเจนก่อน เพื่อขอหารือร่วมกัน
วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวกรณี
การขอความร่วมมือตำรวจดำเนินคดีผู้ไม่ขออนุญาตการใช้กัญชา
นพ.ณรงค์กล่าวว่า จากกรณีที่มีการทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องการดำเนินคดีกับผู้ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัย หรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้านั้น นัยของ หนังสือฉบับนี้ เพื่อต้องการคุ้มครองผู้ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร แต่จากที่ตรวจสอบหนังสือแล้ว
และปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข้อสรุปและข้อสั่งการให้อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ทบทวนรายละเอียด โดยได้นำหนังสือฉบับดั่งกล่าวกลับมาพิจารณาอีกครั้ง ทบทวนเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน
มากที่สุด
ด้าน นพ.ยงยศกล่าวว่า คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย ภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 หารือแล้วเห็นว่าการกำหนดกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมต้องมีความชัดเจน 4 เรื่อง
คือ 1.ประชาชนที่ใช้ประโยชน์กัญชาในการดูแลสุขภาพต้องไม่ได้รับผลกระทบ 2.ความผิดของประชาชนที่ดำเนินการ
ก่อนจะมีประกาศฉบับนี้ต้องไม่มี 3.การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่จะไปดำเนินการร่วมกับผู้เกี่ยวข้องต้องมีความ
ชัดเจน และ 4.กัญชาจะเป็นพืชสำคัญสร้างเศรษฐกิจ และคุณค่าทางการแพทย์
การให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดหรือถูกด้อยค่าจากการกระทำของคนก็ไม่ควรเกิดขึ้น ดังนั้น คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายฯ จึงเห็นควรให้ปรับปรุง
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม ให้มีความชัดเจนขึ้น โดยจะกำหนดเฉพาะช่อดอกกัญชา
เป็นสมุนไพรควบคุมเท่านั้น
“ถ้าประกาศทั้งต้นจะมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก แต่การประกาศเฉพาะช่อดอกจะทำให้ผู้ที่ใช้ประโยชน์จากราก ต้น กิ่ง ใบ ยังสามารถใช้ได้ตามปกติ นอกจากนี้ จะกำหนดปริมาณช่อดอกสำหรับครัวเรือนที่เหมาะสม
ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาและรับฟังความคิดเห็น คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปปริมาณช่อดอกกัญชา หากไม่เกิน
ที่กำหนดจะไม่เข้าข่าย สามารถใช้ดูแลสุขภาพตนเองได้ หากเกินหรือเพื่อการค้าก็ต้องขออนุญาต ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก
เพราะจะอำนวยความสะดวกด้วยการขอทะเบียนออนไลน์ โดยจะกำหนดคุณสมบัติของผู้จำหน่ายไว้ ทั้งนี้หลังปรับปรุงแล้วจะเสนอให้คณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาฯ ซึ่งมีปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เป็นประธานพิจารณา ก่อนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนาม” นพ.ยงยศกล่าว
นพ.ยงยศกล่าวต่อว่า การออกประกาศฉบับใหม่จะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุดเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและเมื่อมีความชัดเจนจะมีการทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติคือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในฐานะผู้อนุญาตในพื้นที่และหารือร่วมกันกับทางตำรวจเพื่อทำความเข้าใจ ส่วนประกาศฉบับก่อนหน้านี้ การบังคับใช้เรื่องบทลงโทษน่าจะยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากเราใช้มาตรการป้องปรามและตักเตือนเป็นหลัก และการดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต้องครบกระบวนความ โดยต้องมีเจ้าพนักงานสาธารณสุขที่มีความเชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรนั้นผิดกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขขอเน้นย้ำการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น