ปทุมธานี หนุ่มนักธุรกิจชาวอินเดียดิ่งอพาร์ทเม้นท์ชั้น9ดับปริศนา
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 ส.ค. 67 ร.ต.ท.อนุสรณ์ เวียงสิมา รองสารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งว่าพบผู้เสียชีวิต อยู่ภายในห้องให้เช่าอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ย่านถนนเชียงราก หมู่18 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง.ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วีระ สุขชนะ สว.สส.สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 1 แพทย์เวรจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าอพาร์ทเม้นท์เป็นห้องอาหารให้เช่า เจ้าหน้าที่พบศพ นาย JAIN TARUN อายุ 39 ปี ชาวอินเดีย สภาพศพนอนคว่ำหน้าขึ้นอืดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีครีม ในตัวพบโทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่อง จากการตรวจสอบพบว่าหลังคาของห้องอาหารพังทะลุลงมาจากด้านบน ซึ่งผู้ตายพักอยู่ที่ห้อง 307 ชั้น 3 จึงเดินทางไปตรวจสอบภายในห้องพักชั้นที่ 3 ในเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร เมื่อตรวจไปจุดพลัดตกลงมาเป็นดาดฟ้าชั้นที่ 9 พบร่องรอยเท้าและขวดน้ำจึงได้บักทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามญาติฝั่งภรรยาผู้ตายผ่านล่าม ทราบว่า ผู้ตายเดินทางมาประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ก็ได้คุยโทรศัพท์กันครั้งสุดท้ายกับภรรยา โดยบอกว่าผู้ตายมีปัญหากับพาสเนอร์ชาวไทยแต่ไม่ได้บอกชื่ออะไร โดยมีการใช้คำพูดเสียงดังกันเกี่ยวกับการร่วมทุนทำธุรกิจ แต่ก็ไม่ทราบว่าธุรกิจอะไร จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้อีกเลย โดยทางญาติของภรรยาต่างร้อนใจที่ติดต่อไม่ได้ จึงได้เดินทางมาจากประเทศอินเดียเพื่อมาที่ไทย แล้วมาตามหาที่อพาร์ทเมนท์ดังกล่าวเพราะผู้ตายได้เช่าห้องพักที่นี่มาเป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้ว และทุกครั้งที่มาประเทศไทยก็จะมาพักที่นี่ จนเมื่อวานได้มาดูแต่ก็ไม่พบผู้ตาย จึงได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ก่อนที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เดินทางมาตรวจสอบพร้อมทั้งช่วยกันหาโดยรอบแต่ก็ไม่พบจนมาทราบจากผู้ดูแลอพาร์ทเมนท์ดังกล่าวว่า พบศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในห้องอาหารที่ให้เช่าและปิดตัวไปแล้วอยู่ด้านหน้าของอพาร์ทเมนท์ และเมื่อมาตรวจสอบก็พบว่าเป็นชาวอินเดียที่ญาติแจ้งหายไว้ และหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์บอกจึงเดินทางมาดูทันที โดยผู้ตายทำงานเกี่ยวกับพวกสายไฟที่อินเดีย ส่วนเรื่องอื่นไม่ทราบมากนัก ญาติผู้ตายบอกด้วยว่าผู้ตายขณะเดินทางมามีเงินสดไทยจำนวนกว่า 30,000 บาทและดอลล่าร์อีกจำนวน 8000 ดอลล่าร์ รวมเป็นเงินไทยกว่า 300,000 บาทที่ผู้ตายพกติดตัวมา
ด้านร.ต.ท.อนุสรณ์ เวียงสิมา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่าทางญาติผู้เสียชีวิตได้มาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ว่ามีคนหายเป็นชาวอินเดีย โดยเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.และได้เข้ามาพักที่นี่วันที่ 14 ส.ค.จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้มาตรวจสอบทั้งภายในห้องและบริเวณรอบๆหอพักแต่ก็ไม่พบก่อนที่จะมาพบอีกทีว่านอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องอาหารให้เช่าซึ่งปิดไปแล้วด้านหน้าอพาร์ทเมนท์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบภายในห้องและบนดาดฟ้าชั้น 9 อย่างละเอียดพร้อมตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดภายในอพาร์ทเมนท์เพื่อดูว่ามีใครเข้าออกห้องของผู้ตายบ้างหรือป่าว ตั้งเเต่เดินทางมาถึงจนถึงวันที่พบศพและได้มอบศพให้มูลนิธิฯนำส่งผ่าพิสูจน์ยังนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ล่าสุดตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจดูกล้องวงจรปิดพบว่า วันที่ 17 ส.ค. เวลาประมาณ 22.00 น.เศษผู้ตายได้เดินเท้าเปล่าจากชั้น 3 เดินขึ้นลิฟต์ไปชั้น 9 เพียงลำพังแล้วหายตัวไปจึงนำเป็นหลักฐานต่อไป














