นนทบุรี ต่อข่าว วินจยย.ที่ถูกชู้ต่อยยับ ยอมถอยยุติความสัมพันธ์รัก 15 ปี ส่วนภรรยาสาวลาวรับมีรักใหม่มา 7 เดือนแล้ว จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “เจ๊ม้อยv+” ได้โพสต์คลิปวีดีโอ พร้อมระบุข้อความว่า ”ปากเกร็ด นนทบุรี“ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ขณะที่วินรถจยย.มีเรื่องชกต่อยกับชาย-หญิงคู่หนึ่ง สังเกตเห็นว่าวินรถจยย.ขับขี่มาและได้ชกต่อยคู่กรณีก่อน 1 หมัด จากนั้นก็ถูกสวนไม่ยั้ง จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในตอนแรกชาวเน็ตต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ด่าทอวินรถจยย.แต่เมื่อทีมข่าวลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์คดีดังกล่าว กลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเพราะมาทราบความจริงว่าที่แท้หญิงสาวที่นั่งมากับรถจยย.อีกคันหนึ่ง คือภรรยา ของวินจยย. ส่วนชายที่รัวหมัดใส่วินจยย. คือชายชู้นั่นเอง เพราะทั้งสองคนยังไม่ได้หย่ากัน และยังมีลูกด้วยกัน 2 คน ล่าสุด วันที่ 19 ส.ค. 67 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่วินรถจยย.หน้าห้างโลตัสปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อพูดคุยกับนายสมเจตต์ จันทร์แจ้ง หรือนายอั้ม อีกครั้ง โดยนายอั้มบอกกับทีมข่าวว่าวันนี้ ตน แม่ของตน ภรรยา หรือน.ส.พิมพ์ ชายชู้ และพี่สาวของชายชู้ ได้เข้าไปไกล่เกลี่ยเจรจากันที่สภ.ปากเกร็ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายยอมความกัน โดยนายอั้มบอกไม่เอาเรื่องเอาความ กับภรรยาและชู้แล้ว เรียกว่าปิดฉากรัก 15 ปี หลังจากนี้ต่างคนต่างดูแลลูกทั้ง 2 คน ส่วนคอนโดมิเนียม รถยนต์ และบ้านพัก น.ส.พิมพ์ อดีตภรรยา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆและไม่สามารถเข้ามาพักอาศัยกับชู้ได้ เพราะเป็นของแม่ตนที่ซื้อให้ครอบครัวอยู่อาศัย นายอั้ม กล่าวต่ออีกว่า หลังจากนี้เลิกแล้วต่อกัน ส่วนเรื่องการจดทะเบียนหย่า ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถจดได้ เนื่องจากภรรยาเป็นคนลาว จึงต้องไปทำเรื่องแปลภาษา และทำเรื่องที่สถานทูตต่อไป แต่แน่นอนว่าตนไม่กลับไปหาภรรยาแล้วอย่างแน่นอน และหากพบเจอทั้งคู่ขับขี่รถจยย.ผ่านก็จะไม่ใจร้อนเข้าไปต่อยตีอีกแล้ว เพราะวันนี้รู้แล้วว่าภรรยาไม่เหลือเยื่อใยหรือความรักให้กับตนแล้ว หลังจากนี้ทำใจยอมรับ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ยังไม่พร้อมเปิดใจให้ใครเพราะยังเจ็บปวดกับรักที่ผ่านมา จากการสอบสวนน.ส.พิมพ์ อดีตภรรยา ของนายอั้ม ได้พูดคุยกับทีมข่าวผ่านทางโทรศัพท์มือถือ บอกว่าเรื่องทั้งหมดจบแล้ว ถือว่าตนและนายอั้มเลิกรากันแล้ว และไม่ขอให้สัมภาษณ์กับสื่ออีก