“ผู้ช่วยโจ๊ก”นำทีม ภ.8 ขยายผล รวบผู้จ้างวานฆ่า “เจ๊หญิง”
วันที่ 25 ก.ค.2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.65 เวลาประมาณ 20.42 น. นางสาวจิตตภัส หรือเจ๊หญิง เชิดชูพงศ์เจริญ อายุ 43 ปี ที่อยู่ 77/20 ม.3 ต.หนองไทร อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ถูกยิงเสียชีวิต ภายในลานจอดรถของร้านวันชัย คาร์แคร์ ที่เกิดเหตุ โดยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนสามารถจับกุมผู้ต้องหากับพวกตามหมายจับได้จำนวน 5 ราย ได้แก่ นายสมหมาย เรืองเจริญ ผู้จ้างวาน, นายอรรถพร นพคุณ ทำหน้าที่ คนรับงาน,ชี้เป้า,วางแผนก่อเหตุ, นายรณกร วิชัยดิษฐ์ ทำหน้าที่ผู้รับงาน,จัดหามือปืน,วางแผน, นายธัญญะ วิชัยดิษฐ์ ทำหน้าที่มือปืน และ นายณัฐพงศ์ สุวรรณน้อย ทำหน้าที่คนขับรถ ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียนำเสนอไปก่อนหน้านั้น
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับกรณีดังกล่าวจึงได้สั่งการ ให้ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 สืบสวนขยายผลและติดตามผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก เนื่องจากเชื่อว่ากรณีดังกล่าวมีผู้มีอิทธิพลหรือนายทุนเป็น ผู้สั่งการ ใช้ จ้างวานกลุ่มผู้ต้องหากับพวกไปก่อเหตุ ทั้งนี้จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเชื่อได้ว่านายจำนงค์ นาวาแก้ว อายุ 62ปี ที่อยู่ 59 หมู่ที่ 3 ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง จ.ตรัง มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดครั้งนี้ ในฐานะ ผู้ใช้ จ้างวานฆ่านางสาวจิตตภัสฯ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหมายจับที่ จ.292/2565 ลงวันที่ 22 ก.ค.65 ในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นผู้ใช้ จ้าง วาน หรือก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และผู้ถูกใช้ จ้าง วาน ได้กระทำความผิดนั้น” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) , 84 , 371 และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490
ต่อมา นายจำนงค์ นาวาแก้ว ได้ติดต่อขอมอบตัวกับพนักงานสอบสวน ทันทีที่ทราบว่าตนเองถูกออกหมายจับ โดยตนได้รายงานความคืบหน้าของคดีดังกล่าวต่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ทราบ ก่อนลงไปสอบปากคำและรับมอบตัวตามขั้นตอนตามกฎหมาย
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า คดีดังกล่าวถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญในพื้นที่ ซึ่งกรณีดังกล่าว ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งรัดติดตามจับกุมผู้กระทำผิดโดยเร็วที่สุด ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามีการกระทำผิดในลักษณะวางแผนเป็นขบวนการ แบ่งงานกันทำ โดยมีทั้งผู้ใช้จ้างวาน, รับงานชี้เป้า, จัดหามือปืนและคนขับ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ จนนำมาสู่การออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 5 รายไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนขยายผลพบว่า นายจำนงค์ฯ มีส่วนร่วมกระทำความผิด มูลเหตุจูงใจมาจาก น.ส.จิตตภัส เชิดชูพงศ์เจริญ ผู้ตาย ได้มีปัญหาขัดแย้งกับนายสมหมาย เรืองเจริญ (ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปแล้ว) นายสมหมาย เรืองเจริญ ได้ย้ายไปอยู่กับ นายจำนงค์ฯ ผู้ต้องหา ในพื้นที่ จ.ตรัง และได้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งกันระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่ภายหลังได้มีปัญหาขัดผลประโยชน์กันระหว่างทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง ทำให้กลุ่มผู้ต้องหากับพวกมาก่อเหตุดังกล่าว โดยมีนายสมหมายฯ และ นายจำนงค์ฯ เป็นผู้จ้างวานในการก่อเหตุดังกล่าว ดังนั้นจะมีการกำชับพนักงานสอบสวนให้มีความละเอียดรอบคอบในการดำเนินคดีดังกล่าว
