สำนักงาน ป.ป.ท. ประสานตำรวจ บก.ปปป. จับกุมอดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร ยักยอกเงินค่าธรรมเนียม กว่า 7 หมื่นบาท
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายสุภาพ ศิริ ผอ.ปปท. เขต 6 และ พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผอ. กอท. มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ปปท. เขต 6 นำโดย พ.ต.ท.โฆษิต เฮงจำรัส ผอ.กลุ่มงานปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 1 พ.ต.ท.ธนาชัย เวศอุไร ผอ.กลุ่มงานปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 นายดนัย สะอาดคต ผอ.กลุ่มงานปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 3 ร.ต.อ.สมบูรณ์ อินทร์ทับ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ และนายภาณุวัฒน์ สร้อยศรีสุข นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ประสานความร่วมมือกับเจ้าพนักงานตำรวจ กก.4 บก.ปปป. นำโดย พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. กับพวก
จับกุมนางสาว น. (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ผู้ถูกกล่าวหา ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่ 9/2567 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เมื่อครั้งผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งนักวิชาการที่ดินปฏิบัติการ สำนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร สาขาโพทะเล มีหน้าที่ประเมินค่าใช้จ่าย อันได้แก่ ค่าคำขอ ค่าธรรมเนียมจดทะเบียน ค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ค่าอากรแสตมป์ และค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และออกใบสั่งเงินให้ประชาชนผู้มาขอรับบริการ เพื่อนำเงินไปชำระกับเจ้าหน้าที่การเงิน
แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับแสดงตนว่าเป็นผู้มีหน้าที่เรียกเก็บเงินดังกล่าว และกระทำการเรียกเก็บเงินจากประชาชนผู้ยื่นคำขอ แล้วเบียดบังเงินไปโดยทุจริต จำนวน 15 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 76,199.- บาท (เจ็ดหมื่นหกพันหนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าบาท) เหตุเกิด เมื่อประมาณปี พ.ศ.2552 – พ.ศ.2553 ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร สาขาโพทะเล อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร
ทั้งนี้ เจ้าพนักงานตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ถูกกล่าวหาได้ในพื้นที่ตำบลวัดสิงห์ อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท และนำตัวผู้ถูกกล่าวหาส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป











