ตำรวจบางซื่อ รวบอดีตจ่าทหารเรือ ขับเบนซ์ลักป้ายทะเบียนเลขเบิ้ลคาลานจอดรถ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ พ.ต.ท.มานพ เกิดประโคน สว.สส.สน.บางซื่อ พ.ต.ต.ณัฐวัตร ธงทันที สวป.สน.บางซื่อ พร้อมกำลังฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว จ.ท.กฤษฎา (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี อดีตจ่าทหารเรือ พร้อมของกลางแผ่นป้ายทะเบียนรถ หมายเลข ภฐ 1144 กรุงเทพมหานคร 2 แผ่น อาวุธปืนขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 61 นัด มีดสปาร์ต้า พร้อมฝัก จำนวน 2 เล่ม ไขควงขนาดเล็ก 2 อัน และรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ สีเทา 1 คัน สืบเนื่องจากก่อนการจับกุมเจ้าที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ว่าแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ ทะเบียน ภฐ 1144 กรุงเทพมหานคร ของตนที่ติดกับรถที่ขับมาถูกคนร้ายขโมยไปขณะจอดอยู่ที่ชั้น 3 อาคารจอดรถแห่งหนึ่งย่านอารี ต่อมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุพบว่ามีชายรูปร่าง สันทัด ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเข้ม ลายขาว กางเกงขายาว สวมรองเท้าผ้าใบขาว ทำการถอดแผ่นป้ายรถออกไปและนำไปที่กระโปรงท้ายรถเบนซ์ สีเทา ทะเบียน 2ขค 992 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่ใกล้กัน เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบรถคันดังกล่าว ต่อมาพบ จ.ท.กฤษฎา เดินมาที่รถเบนซ์จึงได้ขอตรวจค้นพบแผ่นป้ายทะเบียนของผู้เสียหาย วางอยู่ในกระโปรงหลังรถของผู้ก่อเหตุจริง ตรวจค้นอย่างละเอียดยังพบของกลางรายการที่เหลือ อยู่ในลิ้นชักหน้า และคอนโซลกลาง จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับว่าแผ่นป้ายทะเบียนที่พบได้ลักมาจากรถของผู้เสียหายจริง และอาวุธปืนพกสั้นขนาดจุด 22 เป็นของตนจริงส่วนรถของกลางที่นำมาก่อเหตุตนรับซื้อมาในราคา 400,000 บาท จากบ่อนเถื่อน และนำแผ่นป้ายทะเบียน 2ขค 9920กรุงเทพมหานคร ซึ่งติดรถเบนซ์ตนเอง มาติดแทนรถคันดังกล่าว ส่วนสาเหตุเพราะตนเองเห็นว่าเลขทะเบียนสวยจึงอยากได้มาเก็บไว้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ (แผ่นป้ายทะเบียน) โดยมีหรือใช้อาวุธปืน หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม , ลักทรัพย์ (รถยนต์) หรือ รับของโจร , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่เป็นของผู้อื่น ซึ่งได้รับอนุญาตให้มี และใช้ตามกฎหมายไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร และ พกพาอาวุธมีด ไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร รวม 4 ข้อหา ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
