นนทบุรี วงจรปิด คนขับรถเมล์สาย 2-2 ถูกพนักงานขับรถเมล์สาย 63 ทำร้าย ไม่พอใจแย่งรถเมล์ขับ
ภาพวงจรปิดวันที่เกิดเหตุ 23 มิถุนายน 2567 ( วงจรปิดจับภาพได้ที่บริเวณสี่แยกตลาดท่าอิฐ ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี) จะสังเกตเห็นว่า นายพงศธร ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รุ่นพี่ชื่อนายเอ นามสมมุติ มาจอดบริเวณสี่แยกเพื่อที่จะเดินกลับขึ้นหอพัก จู่ๆก็มีรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งมาจอดเทียบท่า คนขับคือนายสุรพล คู่อริ ลงจากรถจักรยานยนต์แล้วก็มาชกต่อย นายพงศธร โดยช่วงจังหวะนั้นนายเอเข้าไปช่วยห้าม ไม่นานก็มี นายบีนามสมมุติ เพื่อนร่วมงาน อีกคนหนึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ ตามมาแล้วก็จับนายเอไม่ให้ห้าม เพื่อให้สุรพล ต่อยกับพงศธร
ขณะที่วงจรปิดอีกมุมหนึ่งยังจับภาพขณะที่ รถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บ นายพงศธรกับรุ่นพี่นายเอ ขับออกมา จากขสมก. แล้วจะเห็นว่ามีรถของคู่กรณีนายสุรพงษ์ ขับตามออกมา ทำให้เห็นว่านายสุรพลตั้งใจที่จะตามมาก่อเหตุวันที่ 25 มิ.ย. 67 ที่สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี ทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับผู้เสียหายนายพงศธร สังขศิลา อายุ 40 พนักงานขับรถโดยสาร ขสมก.สาย 2-2 ซึ่งวันนี้เดินทางมาเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบางศรีเมืองอ.เมือง จ.นนทบุรี พร้อมกับใบรับรองแพทย์ ที่ระบุว่า มีอาการบวมที่บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณสันจมูก
นายพงศธร พนักงานขับรถโดยสารขสมก.สาย 2-2 เล่าเหตุการณ์ว่าเมื่อวันอาทิตย์ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากเลิกงานตนได้นั่งดื่ม คุยเล่นกันกับเพื่อนร่วมงาน ที่บริเวณหน้าออฟฟิศขสมก. จนถึงช่วงเวลาประมาณ 21:00 น หลังจากนั้น ก็ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ กลับห้องพักบริเวณสี่แยกตลาดท่าอิฐ ซึ่งคาดว่าระหว่างที่นั่งดื่มกิน กับ รุ่นพี่ ผู้ก่อเหตุ( ชื่อนายสุรพล ผลวิบูลย์ ขับรถโดยสาร ขสมก. 63 )
น่าจะเห็น จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาจนถึงจุดที่รุ่นพี่ส่งตน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขับรถมาเทียบ แล้วลงมาชกต่อยตน ตอนนั้นตนไม่สู้ พยายามเดินหนี เราไม่อยากให้เกิดปัญหาบานปลาย รุ่นพี่ที่มาส่งตนก็พยายามห้าม แต่ก็มีเพื่อนร่วมงานอีกคนคือนายบี นามสมมุติเข้ามาสมทบ โดยการห้ามรุ่นพี่ไม่ให้ห้าม เพื่อให้ผู้ก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายตน ตามภาพในกล้องวงจรปิด
นายพงศธรยังบอกอีกว่า ตนมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ มานานแรมปีแล้วโดยผู้ก่อเหตุไม่ชอบหน้าตน เพราะครั้งหนึ่งตนเคย นำรถขสมส. ที่ผู้ก่อเหตุขับประจำไปขับรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งตอนนั้นเข้าใจผิดคิดว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้มาทำงาน แต่ก็ได้มีการขอโทษขอโพยผู้ก่อเหตุไปแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังเจ็บใจผูก ตามราวีไม่เลิก ถ้าเจอกันในออฟฟิศก็จะพูดจา กระแทกแดกดันและข่มขู่อยู่ตลอด จนกระทั่งมาเกิดเหตุทำร้ายร่าง กาย เกิดขึ้นจึงทนไม่ไหว มาแจ้ง ความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเอาผิดกับนายสุรพลให้ถึงที่สุด ตนจะได้ทำงานอย่างสบายใจ
เรื่องนี้ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ จ.นนทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รองผกก.สส.สภ.บางศรีเมือง มาติดตามเรื่องนี้ด้วยตนเอง โดยบอกว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่เบื้องต้นต้องทำการตรวจสอบ ข้อมูลข้อเท็จจริงก่อนและจะเรียกผู้ กระทำผิดเข้ามาสอบสวน และหลังจากนี้จะประสานไปทางขสมก.ถึงปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ภายในสำนักงาน เพราะนี่อาจจะเป็นการทำร้ายร่างกายกันที่ไม่ถึง บาดเจ็บสาหัส แต่ถ้าไม่เร่งแก้ไข อาจจะมีปัญหาบานปลายมากกว่านี้ รวมถึงต้องเรียกทาง ผู้บังคับบัญชาของทั้งคู่มาพูดกะคุยกันด้วย ถึงแนวทาง ป้องกันปัญหาการกระทบกระทั่งกัน ของคนขับรถสาธารณะ ไม่เช่นนั้นอาจจะเดือดร้อนรำคาญไปถึง ผู้โดยสารและประชาชนต่อไป
จ.นนทบุรี
ทางด้านพ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รองผกก.สภ.บางศรีเมือง กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บางศรีเมือง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และให้พนักงานสอบสวนช่วยกันวิเคราะห์ เรื่องของการทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ว่าอาการหนักแค่ไหน เป็นส่วนหนึ่งของการแจ้งข้อกล่าวหา เดี๋ยวคงต้องรอผลตรวจจากนิติเวช ตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความมั่นใจกับผู้เสียหาย ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางศรีเมืองจะให้ความเป็นธรรมรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้อง จนกว่าคดีจะถึงที่สุด













