นนทบุรี สาวทอมร้องทนายรณรงค์ ถูกหนุ่มสักลายทั้งตัวรุมทำร้ายจนเบ้าตาแตกในร้านอาหารชื่อดัง (มีคลิป)
เมื่อเวลา 13.30 น วันที่ 20 กรกฎาคม 65 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี น.ส.ชัชรีย์ หรือน้องบี บุญจิตต์(สาวทอม) อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี พร้อมแฟนสาว เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายรณณรงค์แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดีและให้ความเป็นธรรมหลังตนเองถูกชายสักลายทั้งตัวทำร้ายร่างกายจนเบ้าตาขวาแตกมองเห็นภาพเลือนลางทำมาหากินด้วยความยากลำบากเพราะต้องขับรถพาแฟนสาวไปขายของตามตลาดนัด โดยคู่กรณีเยียวยาแค่ 12,000 บาท ก่อนท้าให้ไปฟ้องศาลอีกทั้งคดีไม่มีความคืบหน้าจึงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมจากทนายรณรงค์
น้องบีเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเมื่อคืนวันที่ 4 มิถุนายน 65 ตนเองพร้อมแฟนสาวและเพื่อนกระเทยอีก 1 คนรวม 3 คนได้ไป เที่ยวร้านอาหารชื่อดังชื่อร้าน “ราชาศรี” ตำบลหนองขามอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ระหว่างเต้นรำเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน ตนเองก็ได้เรียก PR มานั่งคุย ระหว่างนั้นนักร้องร้องเพลงตนจึงตะโกนเฮ้ยๆๆ ด้วยความสนุกก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเรื่องราวอะไร จนกระทั่งช่วงเวลา 01:30 น ร้านเลิกได้มีชายทราบชื่อภายหลังเพียงชื่อเล่นคือนายเชาว์ อายุ 27 ปี เข้ามาล็อคคอตนเอง พร้อมลากออกมานอกร้านแล้วทำร้ายเตะต่อย ชกเข้าใบหน้าตนอย่างแรง จนตนล้มคว่ำ แฟนสาวตนเองร้องตะโกนห้ามตลอดว่า “อย่าทำร้ายๆเขาเป็นผู้หญิงนะ” แต่นายเชาว์ ไม่สนใจยังคงเตะต่อยตนจนหนำใจก่อนจะขึ้นรถ ฮอนด้า รุ่น CPX (ซีพีเอ๊กซ์) สีขาว ทะเบียน 2กฌ-539 ชลบุรี ขี่หลบหนีไป
หลังเกิดเหตุตนเองได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาม เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเชาว์ ที่ทำร้ายตนเองจนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกนายเชาว์มาเจรจาค่าเสียหายเบื้องต้นโดยนายเชาว์ได้ให้ค่ารักษามา 12,000 บาทและรับปากว่าจะดูแลเยียวยาค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างเต็มที่ แล้วเมื่อตอนสอบถามไปทางหลังสุดเพื่อให้นายเชาว์มาจ่ายค่ารักษาพยาบาลอีก 7,500 บาทที่โรงพยาบาลปรากฏว่าในเช้าบอกว่าไม่มีจ่ายแล้วถ้าอยากได้ก็ไปฟ้องศาลเอา เขายอมติดคุกก่อนจะวางหูไปแล้วไม่สามารถติดต่อได้อีก ส่วนด้านคดีความตนเองก็พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ คดีก็ไม่มีความคืบหน้าจนเวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนจึงต้องเดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากทนายรณรงค์ด้วย
ทางด้านทนายรณรงค์ กล่าวว่า มันเป็นการกระทำฝั่งเดียวเลย เข้าเงื่อนไขที่กองทุนยุติธรรมจังหวัดสามารถเยียวยาได้กรณีนี้ ช่วยเหลือได้มันน่าจะมีประมาณ 40,000 บาทเบื้องต้นนะ ถ้าสาหัสแบบนี้สูญเสียดวงตาในอนาคตก็มีการเยียวยาเพิ่ม คดีความต้องรออัยการฟ้องและเราขอเป็น โจทย์ร่วมเรียกค่าเสียหายกันไป ตนอยากให้คู่กรณีเข้าใจก่อนว่าถ้าตัวเขาเองทำโดยตั้งใจไม่ตั้งใจก็ตามมันต้องมีการมาแก้ไขเยียวยา ให้ลองคิดสภาพว่าถ้าเป็นลูกหลานเราหรือเพื่อนเราโดนแบบนี้เราจะรู้สึกยังไง ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสก็มีโทษจำคุกสูงถึง 10 ปี ก็เป็นการเจตนาถ้าคุณไม่เยียวยาแล้วมาท้าทายเหยงๆแบบนี้ไปฟ้องศาลผมรับรองเลยคุณติดคุกแน่นอนจะติดกี่ปีเท่านั้นเองคุณจะบอกว่าคุณไม่ทำไม่ใช่เพราะวงจรปิดมันชัดขนาดนั้นฝากไปถึงคนก่อเหตุเรื่องแบบนี้ตอนนั้นคุณจะเมาหรือไม่เมาแต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วคุณต้องออกมารับผิดชอบตนเองจะติดตามคดีให้ผู้เสียหายที่ สภ.หนองขาม เพื่อดำเนินการช่วยเหลือทางกฎหมายให้กับคนเจ็บรายนี้ต่อไป
