“พล.ต.ท.สุรเชษฐ์” นำทีมแถลงขยายผลค้ามนุษย์เชียงราย 2 เคสรวด รวบเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับเอื้อขบวนการค้ามนุษย์
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว
ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.)เปิดแถลงว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 26 พ.ค.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดเชียงราย ได้ร่วมกันจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งมีการลักลอบถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอพลิเคชั่นจีน “จู้โส่ว” โดยใช้รีสอร์ทในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเป็นที่ถ่ายทำ สามารถเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายซึ่งถูกบังคับให้มาเป็นนักเแสดง เป็นชาวไทยและชาวลาว จำนวน 29 คน มีการจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้จัดให้มีการถ่ายทำและผู้สนับสนุน จำนวน 16 คน เป็นชาวจีน 9 คน ชาวลาว 4 คนและชาวไทยอีก 3 คน และยังสามารถขยายผลจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐที่มีการเรียกรับผลประโยชน์และปล่อยให้มีการกระทำผิดดังกล่าวอีก 4 ราย ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลนำเสนอไปแล้ว นั้น





ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (19 ก.ค.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลเพิ่มเติมอีกจนสืบทราบว่าเมื่อวันที่ 21 เม.ย.65 ที่ผ่านมา ได้มีบุคคลต่างด้าวเป็นชาวจีน 2 ราย และชาวลาว 4 ราย (เป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่ถูกพบและได้รับการช่วยเหลือในภายหลัง) ซึ่งเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย กำลังเดินทางไปถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอพลิเคชั่นเช่นเดิม ในระหว่างทางได้พบจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนำส่ง สภ.เมืองเชียงราย ต่อมามีนายอนุสรณ์ แหล่ยิ ผู้ต้องหา นำเงินมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมผ่าน ร.ต.อ.วิเชิด กิติมา จำนวน 70,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลต่างด้าวดังกล่าว ก่อนได้รับการปล่อยตัวออกมาทั้งหมด และถูกพบการกระทำผิดเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ในภายหลัง
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการซักถามปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวบรวมพยานหลักฐาน และได้ขออนุมัติหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย จำนวน 8 ราย ที่ปฏิบัติหน้าที่จุดตรวจและเรียกรับเงินแลกกับการไม่ดำเนินคดีดังกล่าว ดังนี้(1. )ร.ต.อ.เจษฎาพงษ์ แสนยาวุธ รอง สวป.สภ.เมืองเชียงราย หัวหน้าชุด (2. ) ด.ต.เจษฎาธร ตอนใจ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองเชียงราย(3.)ด.ต.ธฤตวัต รักนา ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองเชียงราย
(4.)ด.ต.บรรดล คำตื้อ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองเชียงราย(5. )ส.ต.อ.อลงกต จันทร์แดง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองเชียงราย(6. )ส.ต.อ.ณภัค มโนชัย ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองเชียงราย(7. )ส.ต.อ.ธนิก วงศ์ชัย ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองเชียงราย
(8.)ส.ต.ท.อิทธิพัทธ์ พรสุขพิพัฒน์ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองเชียงราย
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยทั้งหมดได้ถูกจับกุมตัวและรับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ อีกกรณีที่มีคลิปของกลุ่มหญิงสาว จำนวน 6 คนที่ถูกเอเจนซี่คนไทยชักชวนไปทำงานเป็นพีอาร์ที่ประเทศเมียนมาร์ มีการข้ามแดนไปยังประเทศเมียนมาร์โดยผิดกฎหมาย สุดท้ายถูกบังคับค้าประเวณีที่สถานบริการภายในเมืองป๊อก รัฐฉาน (เขตปกครองพิเศษว้า) ประเทศเมียนมาร์ มีหัวหน้าชาวจีนเป็นคนดูแลผลประโยชน์ โดยกลุ่มหญิงสาวทั้ง 6 คน ได้มาขอความช่วยเหลือผ่านทางสื่อโซเชียล และเมื่อวันที่ 7 ก.ค.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศเมียนมาร์เข้าช่วยเหลือ นำพากลุ่มหญิงสาวทั้ง 6 คน กลับมายังประเทศไทยโดยปลอดภัย ตามที่ทราบแล้วนั้น
การดำเนินการล่าสุดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว หญิงสาวทั้ง 6 คนที่ได้รับการช่วยเหลือ เข้าสู่กระบวนการตามมาตรการสาธารณสุข และกระบวนการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ผลปรากฏว่า ทั้ง 6 รายเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ จึงได้มีการสอบถามข้อมูลเพื่อให้มีการขยายผลดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง พนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ภ.จว.เชียงราย สามารถรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาได้จำนวน 5 ราย ประกอบด้วยผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่เป็นนายหน้าในการชักชวนคนไปทำงานที่เมียนมาร์จำนวน 2 ราย ดังนี้
(1. )น.ส.เรืองจุฑา หรือป๊อกแป๊ก ภูมิพันธ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 5 ต.ตั้งใจ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์(2.)น.ส.ชนิสรา หรือมิ้ว พงศ์ศรีรัตน์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 2 ซอยไพศาลอุทิศ 3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันโฆษณาหรือรับโฆษณา ชักชวน หรือแนะนำด้วยเอกสารสิ่งพิมพ์ หรือกระทำให้แพร่หลายด้วยวิธีใดไปยังสาธารณะที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้อง หรือการติดต่อเพื่อค้าประเวณีของตนเอง หรือผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดให้เพื่อบุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่ากระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายใน หรือนอกราชอาณาจักรและผู้ต้องหาอีก 3 ราย เป็นเจ้าหน้าที่รัฐและพลเรือนซึ่งมีการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี ดังนี้(1. ) ร.ต.อ.อนุพงศ์ กุลโล รอง สว.(ป.) สภ.แม่สาย จ.เชียงราย(2. )ส.ต.อ.ณัฐกานต์ เขียวแก้ว ผบ.หมู่ ป. สภ.แม่สาย จ.เชียงรายโดยกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ (4.)นายไส้ พรมมา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189 หมู่ 5 ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย
โดยกล่าวหาว่า เรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจหรือได้จูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมาย
พฤติการณ์กล่าวคือ หญิงสาวทั้ง 6 ราย ได้ถูก น.ส.เรืองจุฑา และ น.ส.ชนิสรา ผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่เป็นเอเจนซี่ ชักชวนไปทำงานที่เมียนมาร์ โดยหลอกว่าจะได้รับเงินเดือนๆ ละ 6 แสนบาท เมื่อหญิงสาวทั้ง 6 รายหลงเชื่อ จึงได้มีการนัดหมายและลักลอบนำพาข้ามแดนไปยังฝั่งเมียนมาร์โดยผิดกฎหมาย แต่ระหว่างการเดินทางข้ามแดนได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบ และได้มีการเรียกรับผลประโยชน์เป็นเงินกว่า 60,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเงินไปแล้ว กลุ่มหญิงสาวทั้งหมดได้ถูกปล่อยตัว และพาหญิงสาวทั้ง 6 รายข้ามไปยังฝั่งเมียนมาร์ได้สำเร็จ ก่อนที่หญิงสาวทั้ง 6 รายจะถูกพาไปยังเมืองป๊อก ประเทศเมียนมาร์ และถูกบังคับค้าประเวณี จนได้รับการช่วยเหลือกลับมายังประเทศไทยในเวลาต่อมา
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การดำเนินการขยายผลคดีค้ามนุษย์ทั้ง 2 เคส ของ ภ.จว.เชียงรายนั้น ส่วนหนึ่งจะเป็นการดำเนินคดีกับตัวผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่เป็นคนลักลอบนำพาผู้เสียหายข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย อีกส่วนหนึ่งเป็นการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ซึ่งการกระทำเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง หากเจ้าหน้าที่ที่ถูกดำเนินคดีดังกล่าว ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งและทำตามขั้นตอนของกฎหมาย การกระทำผิดทั้งการลักลอบนำพาคนข้ามแดนไปทำงานผิดกฎหมาย และการพาเหยื่อไปถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ก็จะไม่เกิดขึ้น จะเป็นการระงับยับยั้งผลที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงสั่งการไปยังผู้บังคับบัญชาหน่วยปฏิบัติต่างๆ ให้กำชับเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาตามขั้นตอนของกฎหมายโดยเคร่งครัด หากพบเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดอีก จะดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 หรือ www.humantrafficking.police.go.th หรือ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/TICAC2016 หรือ LineOA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุดคือ การสแกน QRCODE เพื่อกรอกแบบฟอร์มในการแจ้งเหตุและเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวเพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป “รอง ผอ.ศพดส.ตร. กล่าวแถลง”