เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 พ.ค.67 ที่สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี พนักงานสอบสวนสภ. ชัยพฤกษ์ ได้เรียกตัวนายดุลวิทย์ หรือบอล เลิศธนพงศ์ อายุ 43 ปี ผู้บาดเจ็บ และนายนนท์เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีการสอบปากคำนานกว่า 2 ชม. โดยบรรยากาศที่สภ.ชัยพฤกษ์ ได้มีเหล่าบรรดาญาติเพื่อนพี่น้อง ได้เดินทางซื้อข้าวเข้าเยี่ยมนายธีระเดช หรือเอ รุ่งอำไพ อายุ 42 ปี ที่ห้องผู้ต้องขัง พร้อมนำหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท ขอยื่นประกันตัวกับพนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามเพื่อนของนายเอ ให้ข้อมูลว่า นายเอ ตอนนี้มีอาการเครียด รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และน้องบอยผู้ตาย ก็รู้จักกับนายเอเคย พูดคุยช่วยเหลือให้คำปรึกษาต่างๆกับน้องบอย
ส่วนทางญาติผู้ก่อเหตุทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์แต่ทางญาติไม่สะดวกให้ถ่ายภาพ และข้อมูลกับสื่อมวลชนแต่อย่างใด
นายดุลวิทย์ หรือบอล เปิเผยว่า วันเกิดเหตุ เกล่าวว่า ตนดูกล้องวงจรปิดเห็นตั้งแต่มีคนขับรถเข้าไป 3 คน เห็นคนชื่อเอเดินอ้อมรถมาหาตน เกิดการชุลมุนแล้วต่อยกัน ตนกับเอต่อยกัน 2 คนส่วนบอยคนตายกับนนท์ ช่วยกันห้าม ตรงมุมถนนจะเห็นกล้องแล้วเขาชักปืนขึ้นมายิงขึ้นฟ้าในกล้องมองเห็นชัดนัดแรกกับนัดที่ 2 ยิงติดกัน แต่ครั้งที่ 2 หายไปจากกล้องวงจรปิดได้ยินแต่เสียง ตนโดนปืนกระแทกไปที่หัวแล้วปืนลั่นไปโดนบอยเสียชีวิต วันนี้เรียกมาสอบปากคำ มีคนบอกว่าตนไปลวนลามเมียเขา ซึ่งตนกับเมียเขาไม่เคยคุยกันไม่เคยสุงสิงมาก่อน รู้ว่าเป็นเมีย ตนเดินเสิร์ฟน้ำแข็งทุกโต๊ะ ไม่ได้เจาะจงโต๊ะไหน ที่ตนโทรไปอยากจะถามว่าตนลวนลามตรงไหน กลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด เขาบอกว่าอยู่บ้านผู้ช่วยน้อยตนเลยเดินทางไปเพื่อจะพูดคุยปรับความเข้าใจแต่พอไปถึงไม่เป็นแบบนั้น เขาแรงมาก่อนพอเกิดชุลมุนน้องเลยห้ามแล้วมาถูกปืนลั่นเสียชีวิตโดยที่น้องบอยไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย
นายประสิทธิ์ เรี่ยวแรง อดีตร้อยตำรวจโท อายุ 69 ปี ญาติของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นญาติทั้งสองฝ่าย คงต้องให้เป็นกระบวนการของศาล เพราะมันเป็นคดียิงคนตาย อีกฝ่ายบอกปืนลั่น ตนคิดว่ามันมีกระบวนการพิสูจน์ ส่วนตัวคิดว่าปืนลั่นไม่ได้ ปืนเป็นขนาด 11 มม.ตนเป็นอดีตตำรวจเล่นปืนนี้มาตั้งแต่ พ.ศ 2517 รู้เรื่องปืนดีที่บ้านมีเป็น 10 กระบอก ยังไงปืนก็ไม่ได้ลั่นต้องมีการเตรียมการไปขึ้นนกไว้ แต่ก็ยังมีเซฟ มีทั้งเซฟข้างและเซฟข้างหลัง ขนาดทำหล่นหล่นปืนยังไม่ลั่นเลย
นายกอล์ฟ อายุ 42 ปี น้าของนายบอย กล่าวว่า ทางน้องบอยผู้ตายเป็นหลานของตนกินนอนด้วยกันเป็นประจำทุกวัน โดยน้องเป็นคนน่ารักนิสัยดีขยันทำงานทำอาชีพ ขับรถส่งของ ตอนนี้รู้สึกเสียใจคนนึงก็เพื่อน อีกคนก็หลาน ก็คงให้ไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งก่อนเกิดเหตุหลานตนได้กลับมาบ้านหลังจากไปงานบวชที่วัดสะพานสูง ตนก็ได้ทักพูดคุยกันปกติ บอยหลานตนก็บอกว่าร้อนขออาบน้ำก่อน หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ได้มานั่งเล่นมือถืออยู่สักพัก ก็ออกไปนั่งเล่นบ้านพี่ชายต่อ ก่อนที่จะไปมีเรื่องและเสียชีวิต
