นนทบุรี จบด้วยดีไม่มีเอาคืน คู่กรณีขาสั้นม.3 จ่ายเงินเยียวยา ค่ารักษาพยาบาลก่อนจับมือไม่ติดใจกัน หลังยืมเงิน 100 บาทแล้วไม่มีจ่ายจนถูกทำร้ายบาดเจ็บ (เบลอหน้าคู่กรณีสองฝ่ายด้วยครับ)
จากกรณีเมื่อเวลา 16.00 น วันที่ 24 พฤษภาคม 67 นายชัยณงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี พาน้องคลอง อายุ 16 ปี ลูกชายเป็นนักเรียน ชั้น ม.3 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านถนนรัตนาธิเบศร์ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี หลังลูกชายถูกเพื่อน 3 คนรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ สาเหตุแค่ยืมเงินเพื่อน 100 บาทแล้วไม่มีใช้ จึงถูกรุมสกรัมจนน่วมหนำใจได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
โดยน้องคลอง เล่าว่า เมื่อเดือนที่แล้วตนได้ยืมเงินเพื่อนชื่อกาย นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนเดียวกันแต่คนละห้อง เป็นเงิน 100 บาท แต่ยังไม่มีใช้ เพื่อนทวงหลายครั้งแล้ว ตนจึงขอผลัดว่าอีกวันสองวันจะคืนให้ ทำให้เขาไม่ พอใจทักให้ตนไปหาที่บ้านในซอยประชาราษฎร์ 16 เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวาน เมื่อไปถึงปรากฏว่าในกายอยู่กับเพื่อนอีก 5-6 คน และได้บอกกับตนว่าเมื่อไหร่จะคืนเงิน ตนขอเวลาอีกวันสองวัน พอพูดจบนายกาย นายตี๋ นายคิว ตรงเข้ารุมสกรัมทำร้ายทั้งเตะทั้งต่อยอัดจนตัวเองน่วมได้รับบาดเจ็บที่ใต้คางและแก้มขวาตามร่างกายฟกช้ำเจ็บปวดไปทั่วตัว ก่อนจะบอกให้ตนรีบกลับบ้านไปหาเงินมาใช้หนี้ พอถึงบ้าน ทางพ่อของตนเห็นบาดแผล จึงได้สอบถามเรื่องราวและ พาตนไปหาหมอที่โรงพยาบาลก่อนมาแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี “ตนก็ไม่เข้าใจว่าเงินแค่ 100 บาท ทำไมต้องโมโหและทำร้ายร่างกายตนเองขนาดนี้”
ขณะที่นายชัยณรงค์ผู้เป็นพ่อเผยว่า เด็กที่ทำร้ายลูกชายตน ตนก็รู้จักดี เขาก็รู้และมีเบอร์โทรศัพท์มือถือของตน ทำไมไม่โทรหาตน ตนจะได้ใช้หนี้แทนลูกชายไม่ใช่มาใช้ศาลเตี้ยรุมทำร้ายลูกชายตนเองจนบาดเจ็บแบบนี้ อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวนักเรียนขาสั้นวัยโจ๋มาดำเนินคดีตามกฎหมายเพราะถือว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ โชคดีนะที่ลูกตนไม่ถึงกับนอนโรงพยาบาลหรือเจ็บสาหัสมากกว่านี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น ที่สภเมืองนนทบุรี ผู้ปกครองของเด็กชายทั้ง 3 คน ได้เดินทางเข้าพบพันตำรวจตรีฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สารวัตร สอบสวนเจ้าของคดี โดยมีนายชัยณรงค์และลูกชายรวมทั้งฝ่ายคู่กรณีพูดคุยเจรจาก่อนที่ทางฝ่ายผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุยินยอมชดใช้ค่ายเยียวยาในการรักษาพยาบาลให้กับฝ่ายนายชัยณรงค์และลูกชายที่ได้รับบาดเจ็บเป็นเงินสดจำนวนหนึ่งจนเป็นที่พอใจ โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการจับไม้จับมือและ ให้คำมั่นสัญญาต่อกันว่าจะไม่ติดใจหรือคาใจกับเรื่องที่ผ่านมา โดยยืนยันจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในฐานะที่เรียนออยู่โรงเรียนเดียวกัน ก่อนจะบันทึกลงประจำวัน ไว้เป็นหลักฐานแล้วแยกย้ายกันกลับไปในเวลาต่อมา
