นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม : โครงการสัปดาห์ต่อต้านทุจริตและส่งเสริมจริยธรรม “ยุติธรรมต้านโกง โปร่งใส ไม่คอร์รัปชัน”」
โดย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
วันพุธที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 09.30 – 11.30 น.
ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม 10 – 09 (Auditorium) ชั้น 10
ตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ได้บัญญัติเรื่อง หลักนิติธรรม กับการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่รัฐธรรมนูญเป็นกฏหมายสูงสูดหรือมีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุด กล่าวคือ
“หลักนิติธรรม” :
.
ในหมวด 1 บททั่วไป มาตรา 3 วรรคสอง “รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม”
.
หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย มาตรา 26 วรรคแรก “การตรากฎหมายที่มีผลเป็นการจํากัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่รัฐธรรมนูญมิได้บัญญัติเงื่อนไขไว้ กฎหมายดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่เพิ่มภาระหรือจํากัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ และจะกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลมิได้ รวมทั้งต้องระบุเหตุผลความจําเป็นในการจํากัดสิทธิและเสรีภาพไว้ด้วย
.
“การทุจริตและประพฤติมิชอบ” :
.
ในหมวด 4 หน้าที่ของปวงชนชาวไทย มาตรา 50 (10) “ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ”
.
ในหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ มาตรา 63 “รัฐต้องส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน และจัดให้มีมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าวอย่างเข้มงวด รวมทั้งกลไกในการส่งเสริมให้ประชาชนรวมตัวกันเพื่อมีส่วนร่วมในการรณรงค์ให้ความรู้ ต่อต้าน หรือชี้เบาะแส โดยได้รับความคุ้มครองจากรัฐตามที่กฎหมายบัญญัติ”
.
สถานะของ หลักนิติธรรม พบว่า ตัวชี้วัดดัชนีหลักนิติธรรมที่สำคัญของ The World Justice Project หรือ WJP โดยในปี พ.ศ. 2566 จำนวน 142 ประเทศ ประเทศไทยได้อันดับที่ 82 ได้คะแนน 0.49 จากคะแนนเต็ม 1 สถานะของการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน พบว่า การขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) เผยแพร่ผลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) ประจำปี 2565 จากจำนวนประเทศ 180 ประเทศทั่วโลก ประเทศไทยได้ 36 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 101 ของโลก
.
คำแถลงนโยบาย ของ คณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงต่อรัฐสภา วันจันทร์ที่ 11กันยายน 2566
.
“รัฐบาลจะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรม (Rule of Law) ที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ เพราะการมีหลักนิติธรรมที่น่าเชื่อถือเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางความคิดและสังคมที่สำคัญของประเทศ เป็นการลงทุนทำให้ประเทศไทยมีหลักนิติธรรมที่น่าเชื่อถือที่ใช้งบประมาณของรัฐน้อยที่สุด แต่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดในการพัฒนาประเทศ”
.
“หากมองอนาคต สี่ปีข้างหน้าจะเป็นสี่ปีที่รัฐบาลจะวางรากฐานและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับประเทศโดยยึดหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งและน่าเชื่อถือ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จและเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในกรณีการดำเนินงานที่กระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน”
.
“ยุติธรรม ไม่โกง โปร่งใส ไม่คอรัปชัน” เป็นส่วนหนึ่งของ หลักนิติธรรม กับ ป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งภารกิจหลักของกระทรวงยุติธรรมคือทำให้ความยุติธรรมเป็นไปตามหลักนิติธรรม กับ ป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้เกิด “ความยุติธรรมสำหรับทุกคน หรือความยุติธรรมนำประเทศ”อย่างแท้จริง เท่าเทียมเทียบเท่ากับประชาชนจากอารยประเทศที่เจริญแล้ว ซึ่งในประเทศที่ความยุติธรรมได้มาตรฐานตามหลักนิติธรรม กับ ป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ เช่น ประเทศเยอรมนี เขาปกป้องประชาชนของเขาให้ได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใดในโลก โดยรัฐธรรมนูญของ ประเทศเยอรมัน มาตรา 16 อนุ 2 ได้กำหนดไว้ว่า
.
“ไม่มีพลเมืองเยอรมัน คนใดที่จะ ถูกส่งตัวไปรับโทษที่ประเทศอื่น กฎหมายเยอรมันสามารถให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้เฉพาะประเทศใน EU เท่านั้น และนอกจากประเทศใน EU แล้ว จะส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ก็ต่อเมื่อ ศาลยุติธรรมในประเทศนั้นมีกระบวนการยุติธรรมเป็นไปตามหลังนิติธรรม กับ ป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ “ ประเทศเยอรมันไม่ได้ทำสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย จึงเห็นได้ว่านานาชาติเห็นว่า หลักนิติธรรม กับ ป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ นี้มีความสำคัญ กรณีที่เกิดเร็วๆนี้ทำให้เห็นชัดเจนว่า จากการที่ชาวเยอรมัน กระทำความผิดกฎหมายไทยโดยข่มขืนกระทำชำเราเด็กและหนีกลับประเทศเยอรมัน แต่ทางการไทยไม่สามารถที่จะนำตัวกลับมาลงโทษในประเทศไทยได้เนื่องจาเขาไม่ทำสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับไทยอันมาจากเหตุผลที่รัฐธรรมนูญเยอรมันกำหนดห้ามไว้
.
การที่ชาติอื่นไม่เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยเป็นไปตามหลังนิติธรรม กับ ป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่เจ้าหน้าที่รัฐมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จะนำไปสู่สังคมที่เรียกว่า “รัฐล้มเหลว” (Failed State) หนึ่งให้ตัวชี้วัดที่สำคัญและส่อให้เห็นถึงความเป็นรัฐล้มเหลว คือ การคอร์รัปชั่นที่เป็นระบบหรือที่ระบาดไปทั่ว ซึ่งเป็นผลมาจากการที่องค์กร หรือกระบวนการในองค์การมีความอ่อนแอ เจ้าหน้าที่ของรัฐมีการคอร์รัปชั่นโดยไม่สนใจหลักนิติธรรม ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการไม่มีความชอบทำทางกฎหมายและความไม่มีเสถียรภาพในระบบการบริหารขององค์กรนั้น
.
ปัญหาขาดหลักนิติธรรม กับ การทุจริตและประพฤติมิชอบ การทุจริตและประพฤติมิชอบ ในประเทศไทย โดยเฉพาะการทุจริตและประพฤติมิชอบ มีทั้งประเภทที่เรียกว่า พวกกินหญ้า หรือ Grass Eater (Passive Corruption) คือ คนที่ทุจริตคอร์รัปชันในระบบ รับตามน้ำ และประเภทที่เรียกว่า พวกกินเนื้อ หรือ Meat Eater (Active Corruption) คือคนที่ทุจริตคอร์รัปชั่นหาทางเรียกรับผลประโยชน์โดยการขู่เข็ญบังคับหรือกดดันให้ผู้อื่นต้องจ่ายเงินให้ เปรียบเสมือนนายพรานที่ออกล่าเนื้อ
.
ดังนั้น การขับเคลื่อนค่านิยมร่วมและวัฒนธรรมองค์กรกระทรวงยุติธรรม เกิดเป็นวัฒนธรรมแห่ง “สุจริต จิตบริการ ยึดมั่นความยุติธรรม” เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมทุกคนมีจิตสำนึกในการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอย่างลึกซึ้ง มีความสัตย์ซื่อ มีจิตใจรักการบริการ ยึดมั่นและธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม โดยปฏิเสธการทุจริตคอรัปชันทุกรูปแบบ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความยุติธรรมอย่างแท้จริง
.
ในโอกาสนี้ กระผมขอให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมประสานความร่วมมือในการพัฒนาและขับเคลื่อนงานยุติธรรมด้วยหลักการว่า “ยุติธรรมต้านโกง โปร่งใส ไม่คอร์รัปชัน”กระทรวงยุติธรรมพร้อมร่วมเป็นพลังสำคัญของประเทศไทยในการบรรลุเป้าหมายคือ ฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง กับ ป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งภาครัฐและเอกชน ระดับคะแนนดัชนีหลักนิติธรรม The World Justice Project หรือ WJP กับการรับรู้การทุจริต (Corruption Perception Index : CPI) อยู่ใน 20 อันดับแรกของโลกในปี พ.ศ. 2579















