เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานจุดปะทะ เสี่ยแป้ง นาโหนด ไม่พบรอยเลือด จัดเสริมกำลังชุด “ซิงก้า” ตชด.43 ล่าตัว บนเทือกเข้าบรรทัด เล็งขอหมายจับเพิ่ม ฐานขัดขวาง ต่อสู้เจ้าพนักงาน
ความคืบหน้าการติดตามล่าตัว เสี่ยแป้ง นาโหนด หรือนายเชาวลิต ทองด้วง ผู้ต้องหาคดีสำคัญ ที่หลบหนีจากโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช ไปอยู่บนเทือกเขาบรรทัด รอยต่อจังหวัดพัทลุงและตรัง วันนี้ (10 พ.ย.66) เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 นำเครื่องมือและอุปกรณ์เข้าเก็บหลักฐานจุดเกิดเหตุ ที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ชุดแดนไทย 54 และชุดสืบสวน ตำรวจภูธร ภาค 9 ปะทะกับ เสี่ยแป้ง นาโหนด โดยหลังจากการปะทะ เจ้าหน้าที่ชุดแดนไทย 54 ได้ตรึงกำลังล้อมพื้นที่ปะทะไว้ พร้อมตรวจสอบขนำที่เกิดเหตุยืนยันว่า ไม่พบรอยเลือด แต่ยึดพยานหลักฐานได้หลายอย่าง ส่วนเสี่ยแป้ง นาโหนด ที่หลบหนีฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ไปได้ ก็ไม่ได้ใส่เสื้อ แต่มีอาวุธปืน HK จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนในแมกกาซีน รอบตัวติดตัวไปด้วย
ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน9 เก็บพยานหลักฐานจุดปะทะเสร็จแล้ว พนักงานสอบสวน ก็จะขอหมายจับ เสี่ยแป้ง นาโหนด อีกข้อหาคือ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
โดยวันนี้ยังมีคำสั่งให้ เจ้าหน้าที่ชุดแดนไทย 54 ทำลานจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว บนหุบเขาเทือกเขาบรรทัด ด้านจังหวัดพัทลุง ซึ่งใกล้กับจุดปะทะ เมื่อเสร็จแล้วจะใช้เฮลิคอปเตอร์ นำเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน เดินทางขึ้นไปเก็บพยานหลักฐาน จากอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง หลังจากนั้นจะให้เจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการพิเศษหรือหน่วย “ซิงก้า” กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน 43 จำนวน 11 นาย ที่มีความชำนาญการเดินป่าดิบชื้นพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ขึ้นไปเสริมกำลังกับชุดแดนไทย 54 แล้วปฏิบัติการบีบพื้นที่ให้วงแคบ เพื่อกดดัน เสี่ยแป้ง นาโหนด อย่างหนักอีกครั้ง
นอกจากนี้ ตำรวจชุดสืบสวน และพนักงานสอบสวน กำลังเร่งหาพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้นายหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชาย เสี่ยแป้ง นาโหนด เนื่องจากให้ความช่วยเหลือด้านเสบียง ผ่านทางนายพรานและคนนำทาง ที่ลงจากเทือกเขาบรรทัด มาขอความช่วยเหลือจัดหาเสบียง ไปให้เสี่ยแป้ง นาโหนด ขณะหลบหนีอยู่บนเทือกเขาบรรทัด
