ปทุมธานี ผบช.ภ.1 จับแก๊งค์ลักจยย.ชำแหละอะไหล่โพสขายทางเฟสบุ๊ก เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่สภ.คูคต จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รรท.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน รรท.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.พงษ์เพชร จุลจำเริญทรัพย์ ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ปทุมธานี รรท. ผกก.สภ.คูคต พ.ต.ท.นิเวศน์ นิลวดี รอง ผกก.สืบสวน พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สมบุญจิตร รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ชาติ แสงวงศ์ สว.สส.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ รรท.สว.สส.สภ.คูคต พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูคต แถลงผลการปฏิบัติตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยและการป้องกัน อาชญากรรม โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา นายศรุต หรือ ฮิว ธนรัฐสุข อายุ 27 ปี และนายภัทรพงศ์ หรือโก้ แสนจักร อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่กระทำความผิดร่วมกันลักทรัพย์พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 11 คัน โครงรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 โครง เครื่องรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 เครื่อง พร้อมด้วยอุปกรณ์ชิ้นส่วนควบอะไหล่และเครื่องมือที่ใช้อุปกรณ์ในการลักรถจักรยานยนต์จำนวนมาก จับได้ที่บ้านเช่าทาวน์เฮ้าส์ เลขที่ 79/502 หมู่บ้านวัฒนา 2 หมู่ที่ 7 แขวงลำผักชี เขตหนองตอก กรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รรท.ผบช.ภ.1 กล่าวว่าสืบเนืองจาก เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 66 เวลา 01.00 น.ได้มีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าหอพักทรัพย์ประดิษฐ์ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คูคต จึงได้ติดตามสืบสวนจากกล้องวงจรปิดจนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีและหลบซ่อนตัวอยู่พื้นที่เขต ลำผักชี กรุงเทพมหานคร ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 66 จึงได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญามีนบุรี เพื่อขอเข้าทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นพบผู้ต้องหาคือนายศรุต หรือ ฮิว และนายภัทรพงศ์ หรือโก้ และรถจักรยานยนต์ที่ได้ก่อเหตุลักทรัพย์มาจากหลายพื้นที่จำนวน 11 คัน โครงรถจักรยานยนต์ เครื่องรถจักรยานยนต์ พร้อมกับอุปกรณ์ส่วนควบและเครื่องมือที่ใช้ในก่อเหตุกระทำความผิด จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนในฐานความผิดร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร จากการสอบถามขยายผลทราบว่ารถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์มานั้นได้ก่อเหตุมาจากเขตจังหวัดปทุมธานี ในพื้นที่ สภ.คูคต สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ฯ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในพื้นที่ สน.บางเขน สน.ลำผักชี สน.หนองจอก ผู้ต้องหารับว่าทั้งสองคนได้ร่วมกันลักทรัพย์มาแล้วประมาณ 5-6 เดือน หลังจากที่ได้ก่อเหตุแล้วจะนำรถจักรยานยนต์มาแยกชำแหล่ะชิ้นส่วนแล้วโพสขายทางเฟสบุ๊ก เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวอด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 ขอประชาสัมพันธ์และแนะนำให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการจอดรถไม่ควรจอดรถในที่เปลี่ยวหรือลับตาคน ไม่ทิ้งกุญแจหรือเสียบกุญแจไว้ที่รถ รวมทั้งให้ใช้อุปกรณ์เสริมในการป้องกันโจรกรรม พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขยายผลคาดว่าคนร้ายจะก่อเหตุมามากกว่านี้ ด้านนายทินรัตน์ รอดภัย อายุ 47 ปี ผู้เสียหายเจ้าของรถ จยย. ยี่ห้อ คาวาซากิ 400 รุ่น นินจา ทะเบียน 8กษ 1019 กทม.ที่ถูกคนร้ายลักและได้รถคืน กล่าวว่า จอดรถไว้หน้าบ้านเช้าลงรถหายไปแล้วเมื่อเปิดกล้องวงจรปิดดูก็เห็นรูปพรรณสันฐานคนร้ายก่อเหตุรูปร่างท้วมไว้ผมแสกกลางย้อมสีทองใส่สายข้อมือแดงรถหายไปแระมาณเที่ยงคืนสิบห้านาทีมันขับรถมาวนดูลาดเล้าน่าเป็นคนพื้นที่เพราะรู้ช่องทางลงก็ถีบคอรถ รถเดิมเป็นสีฟ้า คนร้ายมันไปดัดแปลงเปลี่ยนสีรถใหม่เป็นดำเกือบจำไม่ได้ คนร้ายลักไปทำให้เดือดร้อนคันนี้ยังผ่อนอยู่เลย ถ้าซื้อมือสองประมาณ เก้าหมื่นกว่าบาท ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับคนร้ายและตามยึดรถมาคืนได้อย่างรวดเร็ว














