รวบผู้ต้องหาหนีคดีพยายามฆ่าศาลฎีกาลงโทษจําคุก 22 ปี
กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การ อํานวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รองผบก.ป.,พ.ต.อ.พรศักดิ์เลารุจิราลัยรองผบก.ป.,พ.ต.อ.ปทักข์ขวัญนาผกก.5บก.ป,พ.ต.ท.พงษ์พิทกัษ์ เหล็กชูชาติ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป.,พ.ต.ท.หัตถพร ทองคํา, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคํา รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นําโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ธีระพงษ์ คงเขียว สว.กก.5บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจ ชุดปฏิบัติการที่ 6 กก.5 บก.ป.
ได้ร่วมกันจับกุม นายเกรียงไกรฯ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 200/2566 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2557 ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น หลบหนีไม่มารับ โทษตามคําพิพากษาศาลฎีกา”
สถานที่จับกุม ลานจอดรถโรงแรมในอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่
โดยเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2547 เวลากลางคืน นายเกรียงไกรฯ ผู้ต้องหา กับพวกอีก 1 คน ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงคู่อริ จํานวน 2 นัด กระสุนปืนถูกนายธีระยุทธ์ฯ ที่บริเวณต้นขาซ้าย และ กระสุนปืนถูกนายนิวัตรฯ ผู้เสียหาย ที่บริเวณด้านหลังกระสุนทะลุชายโครงด้านซ้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดทถี่ นนสายเบญจม-บางปู ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
มูลเหตุมาจากพวกของผู้ต้องหาไปติดพันผู้หญิงคนเดียวกับผู้เสียหาย
ต่อมาได้มีการออกหมายจับและ จับกุมผู้ต้องหา ได้วันที่ 30 ตุลาคม 2549 และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อต่อสู้คดีจนถึงศาลฎีกา ต่อมาช่วง ต้นปี 2557 ผู้ต้องหาได้หลบหนีไม่มาฟังคําพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งศาลมีคําพิพากษาจําคุก 22 ปี 2 เดือน 20 วัน เป็นเหตุให้ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกหมายประกาศสืบจับผู้ต้องหาอีกครั้งเพื่อนําตัวมารับโทษตามคํา พิพากษาศาลฎีกา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่า นายเกรียงไกรฯ ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่กับแฟน ที่ จ.กระบี่ จึงวางแผนเข้าทําการจับกุมตัวไว้ได้ที่ ลานจอดรถโรงแรมแห่งหน่งที่ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ก่อนนําตัวส่งศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับ ว่าได้ร่วมกับเพื่อน คือนายติ๊ก (ปัจจุบันเสียชีวิต) ทําร้ายร่างกายผู้เสียหายโดยชกต่อย และตีผู้เสียหาย ด้วยขวด เครื่องดื่มเกลือแร่เท่านั้น หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ได้แยกย้ายกันไป หลังจากนั้นประมาณหนึ่งสัปดาห์ ผู้เสียหายถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยไม่ได้เป็นการกระทําของตนกับนายติ๊กฯ
หลังถูกจับกุมดําเนินคดีได้ต่อสู้ จนถึงชั้นศาลอุทธรณ์มีคําพิพากษายกฟ้อง แต่ตัวผู้ต้องหาไม่ทราบฝ่ายโจทก์ยื่นศาลฎีกา จึงไม่ได้ไปฟังคํา พิพากษาดังกล่าว










