นนทบุรี บรรยากาศงานศพพ่อถูกลูกกระหน่ำแทงเสียชีวิต ญาติเผยไม่อโหสิกรรม

นนทบุรี บรรยากาศงานศพพ่อถูกลูกกระหน่ำแทงเสียชีวิต ญาติเผยไม่อโหสิกรรม
จากกรณีที่นายอนันต์ เกิดปรางค์ อายุ20ปี ลูกชาย( ผู้ก่อเหตุ )กระหน่ำแทง นายสุขสันต์ เกิดปรางค์ อายุ56ปี พ่อของตัวเองเสียชีวิตคาที่ พบบาดแผลที่แผ่นหลังจำนวน 10 แผล และมีที่บริเวณหน้าท้อง 1 แผล คอ 1 แผล ขมับ 1 แผล และแขนซ้าย 3 แผล สาเหตุเกิดจากทั้ง2คนมีปากเสียงกันและทะเลาะกันทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เหตุเกิดบริเวณบ้านเลขที่ 80/5 ม.8 ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว พบว่า น.ส.อนาวรรณ เกิดปรางค์ อายุ 26 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิตเป็นพี่สาวของผู้ก่อเหตุ ทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณ และจุดธูปกลางแจ้งจำนวน 16 ดอก เพื่อทำการเปิดทางบอกเจ้าที่เจ้าทางให้พ่อไปอยู่ที่วัด หลังจากนั้นทางครอบครัวได้นำศพของนายสุขสันต์ เกิดปรางค์ อายุ56ปี มาทำพิธีสวดอภิธรรมศพที่วัดขวัญเมือง ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยมีญาติและคนสนิทของผู้เสียชีวิตเข้ามาร่วมงานด้วยความโศรกเศร้ท ซึ่งจะมีการสวดอภิธรรมศพในวันที่ 23-25 ส.ค.66. เวลา 18.30น. และจะทำการประชุมเพลิงในวันที่ 27 ส.ค.66 เวลา 16.30น.
จากการสอบถาม น.ส.อนาวรรณ ลูกสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า เรื่องทั้งหมดตนไม่ทราบว่าทั้ง2คนมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่ตนเคยทราบว่าพ่อกับน้องชายเคยมีเรื่องกันเพราะการปิดประตูเสียงดัง ซึ่งตนเคยอยู่ในเหตุการณ์1ครั้ง แต่ตนอยู่ภายในห้อง รู้มาว่าน้องชายเป็นคนที่หาเรื่องพ่อก่อน ซึ่งพ่อจะเปิดปิดประตูแบบนี้อยู่แล้ว ส่วนน้องคิดว่าปิดประตูกระแทกใส่ ซึ่งตนดูแล้วทุกอย่างปกติมากเพราะตนคอยฟังอยู่ในห้อง หลังจากที่น้องชายโมโหได้ไปทุบประตูห้องพ่อและด่าทอว่าให้ออกมาและบอกให้ปิดประตูเสียงเบาๆ ถ้าเรื่องนี้เป็นสาเหตุทำให้เขาฆ่าพ่อมองว่าเกินไป รู้มาว่าเขาทะเลาะกันบ่อยมาก น้องชายจะหาเรื่องทะเลาะทำอะไรก็หาเรื่อง พ่อทำงานบ้านบางครั้งก็หยิบมีดมาชี้หน้า เขาเป็นคนโรคส่วนตัวสูงและหัวรุนแรง มีการข่มขู่วางเพลิงบ้านขู่ทำลายทรัพย์สิน เอามีดชี้หน้าแม่และขู่ฆ่า ซึ่งตนไม่ทราบว่าน้องมีบัตรการรักษาที่โรงพยาบาลอยู่หรือไม่ ส่วนทางญาติตอนนี้ยังไม่มีใครให้อภัยกับการกระทำครั้งนี้ของน้อง แต่ในภายหน้าตนก็ไม่สามารถบอกได้ว่าใครจะอโหสิให้ เพราะสิ่งที่ทำมันรุนแรงเกินไป แค่ส่งเสียงรบกวนไม่ควรจะทำแบบนี้ วันนี้ทางแม่ได้เข้ามาสอบปากคำที่สภ.บางศรีเมือง ตนได้ติดต่อไปคุยแม่จะเป็นคอยดูแลน้อง และชอบให้ท้ายคอยสนับสนุนช่วยเหลือและเข้าข้างน้องทุกอย่าง โดยอ้างว่าน้องไม่ปกติ ไม่ปกติเหมือนพ่อ แต่ตนมองว่าไมเหมือนกันเพราะพ่อเป็นคนใช้ชีวิตทุกอย่างได้ปกติ แต่น้องไม่สามารถคุยกับใครได้เลย เก็บตัว และชอบหาเรื่องมาลงที่พ่อ ซึ่งเมื่อวานที่เกิดเหตุน้องชายได้เดินมาหาตนหลังจากที่ตนเข้าบ้าน บอกว่าให้ตนโทรเรียกตำรวจ ซึ่งตนยังไม่โทรเรียกเพราะคิดว่าไม่มีอะไร แต่เห็นว่าน้องมีมีดที่มือและมีเลือดออกตามตัวและพื้นบ้าน น้องบอกว่าพ่อนอนอยู่หน้าบ้านตนจึงตัดสินใจโทรหาตำรวจ เพราะตนเห็นพ่อแล้วคิดว่าไม่รอดแน่ๆ พ่อมีอาการกระตุก2ทีแล้วแน่นิ่งไป แต่ที่ตนไม่เข้าใจคือน้องปล่อยให้พ่อนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น ทำไมเขาไม่ยอมโทรเรียกตำรวจตั้งแต่ที่เริ่มต้นทะเลาะกัน และน้องก็ไม่ยอมมาบอกว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่รอบนี้ตนรับไม่ได้ที่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ทำให้พ่อเสียชีวิต แล้วมาอ้างว่าเป็นการที่ป้องกันตัวแย่งมีดกับพ่อ แต่บาดแผลไม่ใช่พ่อถูกแทงทั่วทั้งตัวมากกว่า10แผล ถ้าป้องกันตัวจริงๆคงจะมีแค่ไม่กี่แผล ซึ่งตัวของน้องก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก แค่นิ้วแหว่งไปเย็บ และมีชีวิตมีสติอยู่คุยกับตนและคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ตนจึงมองว่าไม่เป็นการป้องกันตัวเพราะเห็นพฤติกรรมน้องชายมากนานมากแล้วคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้