รวบเฒ่าปืนดุ ยิงน้องตายต่อหน้าญาติ หนีคดีนาน 11 ปี
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้
การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ และ พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สวรรยา เอียดตรง, พ.ต.ต.มนตรี สงคง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วย ร.ต.อ.อภินัน ใจห้าว, ร.ต.อ.จอมพฤทธิ์ แก้วเรือง รอง สว.กก.6 บก.ป. และเจ้าพนักงานตำรวจชุดปฏิบัติการ 1 กก.6 บก.ป. (ชป.ตรังสตูล)
ร่วมกันจับกุม นายไสวฯ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช
ที่ 379/2555 ลง 12 พ.ย. 2555 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือ
ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุอันควรจำเป็นเร่งด่วน”
จับกุม ต.ขุนฝาง อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2555 นายไสวฯ ผู้ต้องหา ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นยิง นายรมฯ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง จำนวน 4 นัด ต่อหน้ากลุ่มญาติ จนเป็นเหตุให้ นายรมฯ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุบริเวณ ต.นาเคียน อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช จากการสืบสวนเชื่อว่ามูลเหตุมาจากผู้ต้องหากับผู้ตายมีเรื่องบาดหมางกันมาหลายครั้งแล้ว
สภ.เมือนครศรีธรรมราช ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับนายไสวฯ ตามหมายจับข้างต้น ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจได้ติดตามจับกุมนายไสวฯ มาโดยตลอด แต่ไม่สามารถติดตามจับกุมได้
เนื่องจากนายไสวฯ ได้หลบหนีไปกบดานในพื้นที่ภาคเหนือ
กระทั่งวันที่ 22 ก.ค. 2566 เวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวน
จนทราบว่า นายไสวฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีข้างต้น ได้หลบหนีมาอยู่ที่ละแวก ต.ขุนฝาง อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ จึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบผู้ต้องหาและทราบว่าได้หลบหนีคดีมารับจ้างกรีดยางอยู่ประมาณ 11 ปีแล้ว โดยได้ปกปิดตัวตนไม่ทำบัตรประชาชน กก.6 บก.ป. จึงได้จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็นกับคดี
ตามหมายจับ
