รวบช่างกระจกอลูมิเนียมชิงทอง -เงินสดกว่า1ล้าน อ้างใช้หนี้พนันออนไลน์ เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา เหตุคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทองรูปพรรณและเงินสดและทองรูปพรรณภายในร้านเพชรทองออโรร่า ห้างบิ๊กซี ฟู้ดเพลส สุขาภิบาล 5 ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ได้ทรัพย์สินเป็น เงินสด 200,000 บาท และทองรูปพรรณ น้ำหนัก 28 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 1 ล้านบาท ตร.สน.สายไหมได้รวบรวมพยานหลักฐานของศาลอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุได้ คือ นายวินัย ขันอาษา อายุ 40 ปี ในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ ด้านพล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุมีอาชีพรับทำกระจกอะลูมิเนียม อยู่ครอบครัวโดยมีภรรยา 1 คน และลูกอีก 3 คน แต่ว่าติดการพนันออนไลน์เป็นเงินเกือบ 1 ล้านบาท จึงนำเงินมัดจำของลูกค้าไปใช้หนี้พนันจนเงินหมุนไม่ทัน เมื่อลูกค้าทวงถามจึงทำให้เกิดความกดดันตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียว ใช้เจลแอลกอฮอล์ผสมทินเนอร์เข้าไปขู่พนักงานในร้านทองว่าจะเผาร้าน โดยหลังจากก่อเหตุ นายวินัยได้ไปนอนที่บ้านเพื่อนภายในซอยรามอินทรา 31 แล้วจอดรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุทิ้งไว้ ก่อนถูกตำรวจตามไปจับกุมได้ที่ย่านเอกมัย ขณะเอาเงินไปเที่ยวอาบอบนวด เมื่อตรวจค้นพบทองรูปพรรณของกลางอยู่ในกระเป๋าสะพาย และเงินสดของกลางอีกจำนวนหนึ่ง โดยนายวินัยอ้างว่าได้นำเงินสดของกลางไปโอนใช้หนี้ค่าวัสดุทำกระจกอะลูมิเนียม จำนวนกว่า 1 แสนบาท จากการสอบปากคำยังพบว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุได้มีการวางแผนจะก่อเหตุถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ ครั้งแรกจะก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารแห่งหนึ่ง ย่าน กม.4 ถนนรามอินทรา โดยเตรียมระเบิดเวลาปลอมไว้ก่อเหตุ แต่ต้องเปลี่ยนใจล้มล้มเลิกไป เพราะแม่โทรศัพท์มาหาพอดี ส่วนครั้งที่ 2 เตรียมก่อเหตุที่ร้านทองในห้างบิ๊กซี ย่านถนนสุขาภิบาล 5 อีกสาขาหนึ่ง แต่ในขณะที่เตรียมก่อเหตุนั้น การจราจรติดขัดจึงตัดสินใจล้มเลิกไป จนกระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม จะต้องให้เจ้าของร้านทองมายืนยันจำนวนทองรูปพรรณว่าได้ครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนระบุว่าเจ้าของร้านยืนยันว่าคนร้ายได้ทองไป 28 บาท เมื่อสอบสวนผู้ต้องหาแล้วเสร็จก็จะนำตัวส่งฝากขังในวันพรุ่งนี้ต่อไป โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว












