ตร.ภาค 7 รวบแล้วตร.เก๊ ใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้าจี้ชิงรถเหยื่อ ผบช.ภ.7 นำตัวแถลงข่าวพร้อมของกลาง
วันนี้(วันพฤหัสบดี ที่ 27 ก.ค. 66) เวลา 10.30 น.
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7
พร้อมด้วย
พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวณิชกูล
ผบก.สส.ภ.7
พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย
ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่
รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.พศวี เรืองภู่
รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม
ผกก.สภ.ท่าเรือ
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับ ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ รวม 2 ราย ได้แก่
1.นายบันเทิง แตงอ่อน อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 458/2566
2.นายปฏิวัติ บรรเทิงสมหวัง อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 461/2566
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน โดยมีอาวุธ โดยแต่งเครื่องแบบตำรวจ โดยร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไตร่ตรอง เพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในกาย, ร่วมกันแต่งกายโดยใช้เรื่องแต่งกายคล้ายเรื่องแบบตำรวจ ทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าเป็นตำรวจเพื่อกระทำความผิดอาญา, ร่วมกันสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยไม่มีสิทธิ เพื่อกระทำความผิดอาญา, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป้นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น และร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”
พร้อมของกลางจำนวน 4 รายการ ได้แก่
1.รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิ๊ก สีดำ-น้ำตาล ทะเบียน 1กจ2915 กาญจนบุรี (ที่ใช้ก่อเหตุ) 1 คัน
2.รถยนต์ ฮอนด้าซีวิค สีดำ ทะเบียน 1กพ1021 กรุงเทพฯ (ที่ใช้ก่อเหตุ) 1 คัน
3.ไฟฉาย (ที่ใช้ก่อเหตุ) จำนวน 1 ชิ้น
4.กุญแจมือ (ที่ใช้ก่อเหตุ) จำนวน 1 ชิ้น
พฤติการณ์แห่งคดี
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 66 เวลาประมาณ 20.10 น. สภ.ท่าเรือรับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 มีเหตุมีผู้เสียหายถูกคนร้ายแต่งกายคล้ายตำรวจ ทำทีว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์ หยุดรถผู้เสียหายแล้วก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหายได้รถยนต์ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน ขข 2590 นครสวรรค์, โทรศัพท์ ไอโฟน รุ่น 7พลัส และ เงินสด 3,000 บาท หลบหนีไป จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และเร่งรัดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและสืบสวนสอบสวน คำให้การผู้เสียหาย และพยานประกอบกับภาพวงจรปิดที่พลเมืองดีถ่ายไว้ได้ ทราบว่ามีคนร้ายร่วมก่อเหตุ จำนวน 2 คน ใช้รถยนต์ และ จักรยานยนต์ของกลางทำทีว่าเกิดอุบัติเหตุเพื่อให้ผู้เสียหายหยุดรถ และพิสูจน์ทราบพาหนะของกลางที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสืบสวนพบรถจักรยานยนต์ของกลางที่ใช้ก่อเหตุ จอดทิ้งซุกซ่อนไว้ จึงตรวจยึดเป็นของกลางในคดี และสืบสวนเชื่อมโยงกับนายบันเทิง แตงอ่อน จึงเชื่อว่านายบันเทิงฯ เป็นผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นขออนุมัติหมายจับ ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรีอนุมัติหมายจับที่ 458/2566 ลง 25 ก.ค. 66
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุเรื่อยมา จนพบรถยนต์ที่ผู้ชิงทรัพย์ไปจอดทิ้งไว้ ณ ห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาวันที่ 26 ก.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามจับกุมนายบันเทิงฯ ได้ในพื้นที่ภาคเหนือ จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.ท่าเรือดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากนั้นสืบสวนขยายผลพบว่ารถยนต์ของกลางที่ใช้ก่อเหตุเชื่อมโยงกับนายปฏิวัติ บันเทิงสมหวัง จึงเชื่อว่าผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คือ นายปฏิวัติ บันเทิงสมหวัง จึงแบ่งกำลังให้ฝ่ายสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานยื่นขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกับให้ฝ่ายสืบสวนบูรณาการกำลังสืบสวนไล่ล่าติดตาม พบตัวนายปฏิวัติฯ ซึ่งในซุกซ่อนอยู่พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรีอนุมัติหมายจับที่ 461/2566 ลง 26 ก.ค. 66 จึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.ท่าเรือดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในการนี้ ผบช.ภ.7 ได้มอบเงินรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน ในการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดหลักการทำงานแบบ ”กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก“ จนสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้ และผู้เสียหายได้มอบกระเช้าขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถจับกุมคนร้ายพร้อมได้ของกลางกลับคืนมา ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานเข้าในสำนวนให้รอบคอบ รัดกุม เพื่อสามารถลงโทษผู้กระทำความผิดได้อย่างแท้จริง อันจะสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม ตามคติที่ว่า ”คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์“
ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องตำรวจ
ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ จนสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้ด้วยความรวดเร็ว และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป
ณ สภ.ท่าเรือ ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี















