สำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลี (SPO) ขอบคุณ ป.ป.ส.
หลังส่งตัวนักค้ายาเสพติดหนีหมายจับ
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 เจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลี (SPO) ส่งหนังสือขอบคุณจาก ศูนย์ข้อมูลข่าวสารและการประสานงานเพื่อการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติดแห่งภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (APICC) ถึงนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เพื่อแสดงความขอบคุณสำนักงาน ป.ป.ส. ที่สนับสนุนข้อมูลไปจนถึงการดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดชาวเกาหลีที่หลบหนีมายังประเทศไทย โดยหนังสือดังกล่าวส่งผ่าน นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด ณ สำนักงาน ป.ป.ส.
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า หนังสือขอบคุณดังกล่าวสืบเนื่องจาก APICC ซึ่งเป็นศูนย์ ที่อยู่ใต้การดำเนินการของ SPO ได้ประสานมายังสำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อจับกุมนักค้ายาเสพติดชาวเกาหลีที่มีพฤติการณ์ส่งยาเสพติดจากไปยังสาธารณัฐเกาหลีหลายครั้งและหลบหนีมายังประเทศไทย ตนจึงมอบหมายให้นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติดจัดชุดปฏิบัติการเพื่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ SPO ประจำประเทศไทย สืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับชาวเกาหลี จำนวน 3 รายในประเทศไทย ได้ในห้วงเดือน พฤษภาคม – มิถุนายน 2566 และได้ดำเนินการส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่เกาหลีจำนวน 1 ราย โดย ผู้ต้องหา อีก 2 รายอยู่ระหว่างการดำเนินการส่งตัว
SPO ได้ขอบคุณ สำนักงาน ป.ป.ส. ที่ให้การสนับสนุนทางการเกาหลีเป็นอย่างดีทั้งในกรณีที่ดำเนินการอย่างรวดเร็วรวมถึงการประสานงานความร่วมมือในกรณีอื่น ๆ ที่ช่วยให้การสืบสวนขยายผลถึงผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำผิดได้จำนวนมาก
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “SPO และ สำนักงาน ป.ป.ส. มีความร่วมมือกันอย่างยาวนาน ได้มีการหารือกันอย่างต่อเนื่องทุกระดับ รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ประสานงานกับอีกฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ของ ป.ป.ส. ไปปฏิบัติหน้าที่ ณ สำนักงานอัยการสูงสุด (SPO) สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) และการแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้มาปฏิบัติงาน ณ สำนักงาน ป.ป.ส. นอกจากนั้นรัฐบาลเกาหลียังได้สนับสนุนในด้าน งบประมาณ เทคโนโลยีในการสืบสวนสอบสวน และอื่น ๆ ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ต้อขอบขอบคุณในความร่วมมือจาก SPO และรัฐบาลเกาหลีเช่นกัน”
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นมาตรการที่สำนักงาน ป.ป.ส. ให้ความสำคัญและมุ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะหนึ่งในต้นตอปัญหาที่สำคัญคือผู้ค้ายาเสพติดที่ปัจจุบันเป็นรูปแบบเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ด้วยปัจจัยเอื้อหลายอย่างเช่นเทคโนโลยีในการขนส่ง การสื่อสาร การหลบหนีหมายจับไปยังต่างประเทศ ซึ่งการประสานทำงานระหว่างประเทศต่างๆ ที่มีคุณภาพจึงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้การดำเนินการปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
