นนทบุรี วันที่ 9 ก.ค.2566 เวลา 17.00 น.ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งโพสข้อความระบุว่า
“ขออนุญาต เตือนภัยผู้ให้เช่าบ้านควรคัดกรองผู้เช่าให้ดีๆก่อน ไม่งั้นจะเป็นเหมือนบ้านเรา ระหว่างเช่า ก็ค้างค่าเช่า จ่ายเงินช้าเมื่อทวงถาม บอกว่าขายของไม่ดี ค่าเทอมลูก ปัจจุบัน
ค้างค่าเช่า 5 เดือน(หักค่าประกันแล้ว) สุดท้ายย้ายหนีตอนกลางคืน ทิ้งค่าน้ำไว้2เดือน ส่วนค่าไฟกำลังลุ้นว่าจะกี่บาท ความขี้สงสารและเห็นแก่เด็กๆ เราก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเรา ต้องมาซ้อมบ้านอีกเยอะ เห็นแล้วเจ็บปวดใจจริงๆ”








นาย อิทธิกร (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตนได้ให้เช่าบ้านหลังนี้มานานแล้ว สภาพบ้านตอนแรกที่ให้เช่าคือทำใหม่และได้ให้เช่าตอนแรกแค่เดือนละ3,000 บาท เอง ต่อมาก็ขอขึ้นค่าเช่าจากเดิมมาเป็น 5,000 และ 6,000 บาท ต่อมาผู้เช่าได้มีการต่อเติมบ้านเพื่อเปิดเป็นร้านขายของ ซึ่งตนก็เข้าใจและไม่ได้ว่าอะไร แต่พอช่วงโควิดที่ผ่านมาทางผู้เช่าเริ่มติดค่าเช่าแต่ตนก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะสงสารเด็กๆ ซึ่งเห็นว่าคนเช่ามีลูกอีกหลายคนต้องเลี้ยงดู และช่วงหลังๆ คิดว่าคงขายของไม่ดีก็เข้าใจ ก็เริ่มค้างค่าเช่ามาจาก 1 เดือน เป็น 2 เดือน จนกระทั่ง5เดือน ตนก็เคยโทรถามว่ามีปัญหาอะไรไหม แต่เขาก็ไม่ได้บอกอะไร เคยทวงค่าเช่าแล้วแต่เขาไม่มีให้เราจะให้ทำยังไง ล่าสุดที่คุยกันคือ ตนบอกกับทางผู้เช่าว่าถ้าจ่ายค่าเช่าไม่ไหว จะต้องย้ายออกนะ ซึ่งตนให้เวลาถึง2เดือน เพราะเขามีลูก ตนก็สงสารแต่ไม่คิดว่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางผู้เช่าจะแอบเก็บของหนีออกไปกลางดึก ตนรู้เพราะว่าเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆโทรบอก พอเช้าอีกวันกับลูกสาวจึงได้เดินทางมาดูก็พบว่าคนเช่าเก็บของออกไปแล้ว เหลือแต่ของใช้บางส่วนที่เขาไม่ได้ขนย้ายไปด้วย ซึ่งตนมองว่าเขาคงไม่เอาแล้ว พอตนเห็นสภาพบ้านของตนก็รู้สึกใจหายเพราะก่อนหน้าที่จะให้เช่าตนก็ทำบ้านใหม่ไปแล้วรอบนึง ครั้งนี้ก็ต้งเสียเงินเพื่อซ่อมเเซมบ้านอีก น่าจะหมดอีกเป็นแสน อยากฝากบอกเจ้าของบ้านที่เปิดให้เช่าบ้านว่า ถ้าเจอคนดีก็ดีไป










