ศาลเลื่อนนัดสืบพยาน คดีฟ้องเสมียน-ตำรวจ ปมยิง “พล.ต.ต.ธารินทร์ อดีตรองจเรตำรวจ” เหตุสลดยิง 3 ศพ ในห้องพิจารณาศาลจันทบุรี เมื่อปลายปี 62
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.553/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายธนากร หรือท้อป วีรโรดม ,ร.ต.อ.ขจร บรรจง เป็นจำเลยที่1-2 ฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนามีปืนเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและเป็นผู้สนับสนุน
กรณี เมื่อวันที่ 12 พ.ย.62 พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจเกษียณราชการ วัย 67 ปีใช้อาวุธปืนกล็อก 22 ยิงคู่กรณีระหว่างการเข้าฟังพิจารณาคดี ปมขัดแย้งกันเรื่องกรรมสิทธิที่ดิน3,800ไร่ ภายในห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดจันทบุรี ทำให้นายบัญชา ปรมีคณาภรณ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ และนายวิจัยสุขรมย์ ทนายความ เสียชีวิต ส่วนนางสุภาพร ปรมีคณาภรณ์ ภรรยาของนายบัญชา และทนายความอีกคนบาดเจ็บ ก่อนที่นายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนาย จะเอาปืนจาก ร.ต.อ.ขจร บรรจง ตำรวจสภ.เมือง จันทรบุรี ยิงพล.ต.ต.ธารินทร์ จนเสียชีวิต และกองปราบปรามได้สอบสวนคดีนี้แล้ว ต่อมามีการโอนคดีไปศาลจันทบุรีแต่ในที่สุดได้โอนกลับมาที่ศาลอาญาอีกครั้ง
จำเลยทั้งหมดให้การปฎิเสธ ทั้งนี้จำเลยที่ 1 ประกันตัวไป ด้วยหลักทรัพย์ 300,000 บาท ส่วนจำเลยที่2 ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์ 200,000 บาท
โดยวันนี้ น.ส.จิรัฐิติกาล จันทราทิพย์ อายุ 28 ปี บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ได้ยื่นคำร้องว่าตนเป็นผู้เสียหายจัดการแทนผู้ตาย ร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ และร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตาม ป.วิ อาญา มาตรา 30 และมาตรา 44/1 ศาลถามจำเลยทั้งสองได้คัดค้านคำร้องทั้งสองประเด็น
ต่อมา น.ส.จิรัฐิติกาล พร้อมทนายเพชร นายเอกสิทธิ์ ศรีสังข์ โดยเปิดเผยว่า วันนี้ได้นำสืบโจทก์ถึงเหตุการณ์ที่อยู่หน้าห้องที่มีปรากฎในกล้องวงจรปิด และ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องพิจารณาซึ่งไม่มีกล้องวงจรปิด ต้องอาศัยพยานบุคคลที่รู้เห็นเหตุการณ์ มาเบิกความเป็นพยาน
โดยฝ่ายโจทก์ รวมทั้งตนเองถึงแม้จะไม่อยู่ในเหตุการณ์แต่เชื่อว่าจากข้อมูลพยานหลักฐานทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ว่าในขณะที่ จำเลยคดีนี้ยิงพล.ต.ต.ธารินที่ขณะนั้นกำลังนั่งลงรอมอบตัวรวมทั้งปืนของพล.ต.ต.ธารินทร์ก็หมดกระสุนแล้ว ไม่มีพฤติการณ์ที่จะก่อเหตุร้ายให้เกิดภยันตรายแก่บุคคลอื่นอีกต่อไป แต่ฝ่ายจำเลยอ้างว่าการยิงพล.ต.ต.ธารินทร์เป็นไปเพื่อป้องกันภยันตรายที่จะเกิดขึ้นกับบุคคลอื่นที่อยู่ในห้องพิจารณา โดยอ้างว่าพล.ต.ต.ธารินทร์ กำลังจะยิงบุคคลอื่นหรือก่อเหตุร้ายอื่นอีก
ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็เป็นสิทธิ์ของจำเลยที่ต่อสู้คดีตามกระบวนการ แต่พนักงานสอบสวนของกองปราบปรามได้รวบรวมพยานฐานไว้อย่างชัดเจนและสามารถหักล้างข้อต่อสู้ของจำเลยได้ในทุกข้อ
น.ส.จิรัฐิติกาล กล่าวต่อว่า ในส่วนของรูปคดี ตนฝ่ายผู้เสียหายไม่มีข้อกังวลอะไร เชื่อว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมได้อยู่แล้ว แต่คดีนี้มีความล่าช้าเนื่องจากมีการโต้แย้งเรื่องเขตอำนาจศาล ฝ่ายจำเลยพยายามจะขอไปพิจารณาที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯและศาลจังหวัดจันทบุรี ทำให้ล่าช้ากว่าจะถึงวันสืบพยาน และในวันนี้นัดสืบพยานครั้งแรก ฝ่ายจำเลยก็มาเลื่อนอ้างว่าทนายความจำเลยที่ 1 ป่วย ศาลจึงเลื่อนนัดสืบพยานไปเป็นวันที่ 30 พ.ค. นี้