ชาวบ้าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรีเป็นกังวล ชายขับเก๋งตระเวนขายผ้าใบ แต่งตัวมิดชิด นำผ้าใบมาโชว์ หวั่นเป็นแก๊งขโมยเด็ก หรือ หลอกขายผ้าใบไม่มีคุณภาพ เพราะเลือกเฉพาะบ้านที่มีแต่คนแก่กับเด็กนนทบุรี

ชาวบ้าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรีเป็นกังวล ชายขับเก๋งตระเวนขายผ้าใบ แต่งตัวมิดชิด นำผ้าใบมาโชว์ หวั่นเป็นแก๊งขโมยเด็ก หรือ หลอกขายผ้าใบไม่มีคุณภาพ เพราะเลือกเฉพาะบ้านที่มีแต่คนแก่กับเด็กนนทบุรี เมื่อวันที่ 23 พ.ค 66 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ได้โพสต์รูปรถพร้อมระบุข้อความว่าระวังให้ดีนะครับรถเก๋งสี่นี้โตโยต้าสีบอล สภาพรถเก่าๆหน่อย ฟอร์มมาขายผ้าใบ แต่งตัวเป็นโฟแมน ล่าสุดมาในซอย โรงหมู่แล้ว ระวังดูลูกหลานด้วยนะครับ เดียวรอดูกล้องจะมาแจ้งทะเบียนให้อีกที พอดีผมยืนล้างรถอยู่หน้าบ้าน เลยเอาโทรศัพท์ถ่ายรูปไม่ทัน เป็นผู้ชายแต่งตัวดีเป็น โฟแมน #พิกัดแถวตลาดชุมพล มาผิดที่แล้วผู้สื่อขาวลงพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พบ น.ส.ขวัญใจ แสงอุทิศ อายุ 47 ปี เจ้าของสวนขายต้าไม้เล่าว่า เมื่อวัน ที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมาช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.ตนได้เอาต้นไม้ไปส่งให้ลูกค้าและให้ลูกน้องอยู่ในสวนต้นไม้ซึ่งในช่วงที่ตนไม่อยู่ได้มีชายขับรถเก๋งเก่าๆเข้ามาในสวนต้นไม้ของตนและในรถมีชายทั้งหมด 4 คนนั่งมาในรถและได้ถามลูกน้องของตนว่าเจ้าของสวนอยู่ไหนแล้วเปิดประตูรถลงมาหยิบสายยางจากมือลูกน้องของตนซึ่งเป็นผู้หญิงอายุ 20 ปีที่กำลังลดน้ำต้นไม้อยู่บอกว่าร้อนแล้วเอาน้ำลาดหลังคารถเปิดประตูรถเอาไว้ทั้ง 4 ประตูและได้วักมือเรียกลูกน้องของตนเข้าไปหาแต่ลูกน้องของตนวิ่งหนีด้วยความกลัวและตนก็ไม่เคยรู้จักชายกลุ่มดังกล่าวเลยซึ่งตนคิดว่าน่าจะเป็นพวกที่มาขายกันสาดหรือแฝงตัวมาเป็นมิจฉาชีพหรือลักเด็กเพราะดูปฤติกรรมแล้วไม่น่าใว้ใจและตามโพสต่างๆแถวบางใหญ่ก็มีพฤติกรรมเหมือนกันซึงส่วนมากกลุ่มพวกนี้จะเลือกที่เป็นบ้านที่เด็กและผู้สูงอายุอยู่บ้านบางหลังเรียกแล้วไม่มีเสียงตอบรับก็เดินเข้าไปในบ้านเลยซึ่งตนก็กลัวไม่รู้ว่าคนกลุมนี้จะเป็นมิจฉาชีพอยากกให้ทุกคนต้องระวัง และก่อนหน้านี้ตนอยู่ที่ร้านได้มีชายขับรถเก๋งเก่าๆมากัน สอง คนได้มาถามตนว่าเจ้าของสวนอยู่ไหมตนก็ถามกับว่ามีอะไรตนเป็นเจ้าของสวนเองและชายทั้งสองคนได้นำเอากันสาดออกมาขายในราคาถูกกว่าตามท้องตลาดเอามีดกรีดให้ดูความทนของกัดสาดเอสไฟแช็กมาจุดเผาให้ดูตนก็ชื้อเอาไว้เพพรสะคิดว่าไม่กี่ร้อยพอวันต่อมาจะนำกันสาดมาขึงเพื่อกันแดดด้านในดูไม่ได้เลยเป็นเศษผ้าใบที่นำมาเอากาวแปะให้ดิดกันใช้งานไม่ได้เลยตนก็คิดว่าถูกกหรอกแล้ว นึกไม่ถึงว่าคนกลุ่มนี้จะกับมาหากินแบบนี้อีก ทางด้าน พ.ต.อ.รณภัฎ ทับทิมธงไชย ผกก.สภ.บางใหญ่ กล่าวว่า จากเมื่อวานช่วงสายๆที่ สภ.บางใหญ่ได้รับแจ้งเหตุว่ามีชายบุกรุกเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่บางใหญ่หลังจากนั้นทาง ร้อยเวร 20 และสายตรวจเข้าไประงับเหตุ พบว่ามีชาย2คนเข้าไปในบ้านเพื่อจะขายสินค้าโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของบ้าน พอไปถึงจึงได้สอบถามเจ้าของบ้านที่ได้พูดคุยกับชายกลุ่มดังกล่าว ก็เป็นการเข้าใจผิดกันเจตนาคือจะเข้ามาเคาะประตูเรียกนอกบ้ายแล้วไม่มีใครตอบรับก็เลยเข้าไปเคาะประตูด้านในทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านหวาดกลัวจึงได้แจ้งทางตำรวจมา พอไปถึงก็ได้มีการพูดคุยเจราจาเบื้องต้นแล้วระหว่างเจ้าของบ้านกับชายกลุ่มดังกล่าวที่เข้ามาขายของ ซึ่งของที่กลุ่มขายดังกล่าวเอามาขายก็จะเป็นผ้าใบ เต็นท์ เขามาขายลักษณะเป็นเซลล์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่นำขายกลุ่มดังกล่าว 2 คน เข้ามาที่ สภ.บางใหญ่เพื่อทำประวัติและได้ว่ากล่าวตักเตือนไปว่าการเข้าไปขายของก็ควรจะได้รับอนุญาติจากเจ้าของก่อนเพราะจะทำให้เกิดลักษณะนี้ขึ้นอีก ตามข้อกฏหมายจริงๆแล้วการเข้าบ้านบุคคลอื่นต้องขอได้รับอนุญาติก่อน การเข้าไปโดยพลการอาจจะทำให้ผู้ที่อยู่ในบ้านกลัวหรือตกใจ ทำให้เกิดการเข้าใจผิด ความผิดฐานบุกรุกได้ ก็ขอฝากเตือนการที่อยู่ที่บ้านหากมีคนแก่และเด็กอยู่ขอให้ล็อกประตูบ้านก่อนเพราะเราไม่ทราบว่าคนที่จะเข้ามาในบ้านจะมีจุดประสงค์ร้ายหรือไม่อย่างไร ถ้าไม่ใช่อย่างเคสนี้ที่เข้าไปขายของ อาจจะเข้าไปทำร้ายลักทรัพย์ หรือกระทำอย่างอื่นอาจจะทำให้ได้รับความเสียหายได้ ในเคสนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลักเด็ก แต่ว่ายังไงก็ตามข่าวสารที่ปรากฏอยู่ทางเจ้าหน้าที่ก็ระมัดระวังว่าถ้ามีแก็งค์ลักเด็กเข้ามาในพื้นที่ก็จะเข้าดำเนินการอย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนี้ยังไม่พบ