“ตม.สนามบิน ระส่ำ”ร้องเพจดัง
เด็กเส้น ไม่ทำงาน อ้างไปช่วยงาน สำนักงานผู้ใหญ่ เจ้าหน้าที่ ตม.ทั้ง ขาเข้า ,ขาออก ไม่พอต้องเข้าเวรควงงานหนัก
“รองฯรอย “ควันออกหู สั่ง สืบทางลับ หากเป็นจริง โดนลงโทษ 1212 เหตุเพราะก่อนหน้านี้ได้กำชับไปแล้ว
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)
ผูัสื่อข่าวรายงานว่า ข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.ตม.2 ซึ่งรับผิดชอบ สนามบินทั่วประเทศ ได้มีข้อความร้องเรียน ไปเพจดังเพจหนึ่ง (พระจันทร์ลายกระต่าย) มีใจความระบุว่า ” สวัสดีครับพี่ต่าย
เคยเห็นข่าวว่านักท่องเที่ยวเยอะ
สนามบินสุวรรณภูมิแน่นตรวจผู้โดยสารไม่ทัน
เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอมั้ยครับ ทั้งขาเข้าและออก
ผบช.แก้ไขเบื้องต้นด้วยการให้ด่าน ตม.จว.เหนือจดใต้ส่งคนมาช่วย 120 คน
ซึ่งไม่มีใครอยากมาหรอกครับ แต่เป็นคำสั่งก็ต้องมา
มาแล้วก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
แต่ที่ขัดใจและเคืองมากคือพวกเราอุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกล
มาช่วยทั้งขาเข้าขาออกสนามบินสุวรรณภูมิแต่สิ่งที่เกิดหลังจากเรามาเริ่มช่วย คือ ผบก.ตม.2 มีคำสั่งให้ ตม.ขาเข้า ขาออกของตนเอง ไปทำงานส่วนอื่น
คนขาเข้าขาออกไม่พอเอาพวกเรามาช่วยแล้วเอาคนตัวเองออกไปทำอย่างอื่น แบบนี้รับไม่ได้จริงๆครับ
ทั้งๆที่ ผบช.สตม.ก็มีคำสั่งห้ามไว้
ตามเอกสารแนบครับพวกผมมาจากด่าน ตจว.ได้รับคำสั่งมาถึงจะเดินทางมาไกลแต่ก็พร้อมทำเต็มที่แต่กลับเอาคนที่มีหน้าที่โดยตรงออกไป (เด็กเส้น)คนมันก็อยู่น้อยมันก็ตรวจผู้โดยสารไม่ทันเหมือนเดิมแบบนี้ เท่ากับเจ้านายไม่คิดแก้ปัญหาเลย คิดแต่ช่วยเด็กเส้น #ขอบคุณพี่ต่าย ที่รับฟังครับจาก ตม.ด่าน ตจว. เหนือจดใต้ ข้อความที่ข้าราชการ ตม.ร้องถึงเพจดังกล่าว ระบุ”
ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(มค.) เคยมีคำสั่ง วิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งด่วนที่ 0001(มค)/66 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2566ถึง ผบช.สตม.เพื่อให้ ผบ.ตร.ทราบโดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า
1.)ด้วยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ปรากฎข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของ สตม. ได้แก่ กรณีคนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศโดยอาศัยช่องว่างของกฎหมาย โดยการใช้คนไทยเป็นผู้ถือหุ้นแทนในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท (นอมินี) ทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม และกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้โดยสาร ส่งผลกระทบในการเดินทางเข้า – ออก ของผู้โดยสาร โดยเฉพาะผู้โดยสารขาออกที่ไม่สามารถเดินทางได้ทันตามกำหนด อันส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ ตร. และประเทศในภาพรวมเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ดำเนินการ ดังนี้
2.)กำชับมาตรการเชิงรุก โดยการตรวจ และ/หรือ ร่วมตรวจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการ
ประกอบธุรกิจของกลุ่มคนต่างชาติอย่างเป็นรูปธรรม หากมีพฤติการณ์ที่สมควรเพิกถอนการอนุญาตฯให้ดำเนินการตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ของ สตม. -เร่งรัดแก้ไขบรรเทาปัญหาในการจัดกำลังพลเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อรองรับความ
แออัดของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้า – ออก โดยเฉพาะสนามบินเป็นการด่วน – ตรวจสอบคนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาและพำนักอยู่ในราชอาณาจักร โดยอยู่เกิน
กำหนดเวลาอนุญาต (Overstay) พร้อมทั้งให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด – ตรวจสอบสถานประกอบกิจการโรงแรม เกสต์เฮาส์ หรือสถานที่อื่นๆ ซึ่งรับคนต่างชาติเข้าพักอาศัย ว่าได้แจ้งการเข้าพักอาศัยของคนต่างชาติ ตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือไม่ หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ให้รายงานผลการดำเนินการเพื่อนำเรียน ผบ.ตร. และดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุกการดำเนินการให้สังคมทราบด้วยเพื่อทราบและถือปฏิบัติ”คำสั่งดังกล่าวระบุ”
สำหรับปัญหาการเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ ตม.สนามบิน รวมถึงข้อติดขัดปัญหา ต่าง ของ บก.ตม.2 นั้น ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(มค.)/ปรท.ผบ.ตร.ได้เคยมีคำสั่ง วิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งด่วนที่ 0001(มค)/66 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2566ถึง ผบช.สตม.เพื่อให้ ผบ.ตร.ทราบโดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า
1.)ด้วยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ปรากฎข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของ สตม. ได้แก่ กรณีคนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศโดยอาศัยช่องว่างของกฎหมาย โดยการใช้คนไทยเป็นผู้ถือหุ้นแทนในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท (นอมินี) ทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม และกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้โดยสาร ส่งผลกระทบในการเดินทางเข้า – ออก ของผู้โดยสาร โดยเฉพาะผู้โดยสารขาออกที่ไม่สามารถเดินทางได้ทันตามกำหนด อันส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ ตร. และประเทศในภาพรวมเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ดำเนินการ ดังนี้
2.)กำชับมาตรการเชิงรุก โดยการตรวจ และ/หรือ ร่วมตรวจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการ
ประกอบธุรกิจของกลุ่มคนต่างชาติอย่างเป็นรูปธรรม หากมีพฤติการณ์ที่สมควรเพิกถอนการอนุญาตฯให้ดำเนินการตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ของ สตม. -เร่งรัดแก้ไขบรรเทาปัญหาในการจัดกำลังพลเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อรองรับความ
แออัดของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้า – ออก โดยเฉพาะสนามบินเป็นการด่วน – ตรวจสอบคนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาและพำนักอยู่ในราชอาณาจักร โดยอยู่เกิน
กำหนดเวลาอนุญาต (Overstay) พร้อมทั้งให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด – ตรวจสอบสถานประกอบกิจการโรงแรม เกสต์เฮาส์ หรือสถานที่อื่นๆ ซึ่งรับคนต่างชาติเข้าพักอาศัย ว่าได้แจ้งการเข้าพักอาศัยของคนต่างชาติ ตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือไม่ หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้รายงานผลการดำเนินการเพื่อนำเรียน ผบ.ตร. และดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุกการดำเนินการให้สังคมทราบด้วยเพื่อทราบและถือปฏิบัติ”คำสั่งดังกล่าวระบุ”
จากปัญหากรณีดังกล่าว มีรายงานว่า พล.ต.อ.รอย ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กิตติประภัสส์ ผบ.ตร. ให้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้ทราบปัญหาแล้ว และยังได้กำชับไปก่อนหน้านี้ แต่ ผบก.ตม.2 ยังปล่อยให้เกิดการร้องเรียนแบบนี้อีก จึงได้สั่งการให้เร่งลงไปตรวจสอบโดยเร่งด่วน ว่าข้อเท็จจริงเป็นตามที่ร้องเรียนหรือไม่ .? หากพบว่าเป็นข้อเท็จจริง ต้องรีบดำเนินการแก้ใขโดยเร็ว หากยังฝ่าฝืนดื้อรั้นไม่ปฎิบัติตามนโยบาย ของ ตร. ก็ให้ดำเนินการตามระเบียบที่มีอยู่แล้วให้รีบรายงานความคืบหน้าให้ทราบโดยเร็ว
ทั้งนี้ยังมีรายงานอีกว่า พล.ต.อ.รอยได้ส่งทีมจเรฯลงไปสืบสวนทางลับ ว่าข้อเรียนที่ปรากฏนั้นมีมูลข้อเท็จริงหรือไม่ ถ้าพบหลักฐานข้อเท็จจริงตามที่สืบสวนทางลับ จะต้องนำคำสั่ง ตร.1212 มาใช้กับนี้เพื่อเป็นตัวอย่างให้เห็น เหตุผลคือต้องการให้ข้าราชการในสังกัดหน่วยงานที่ตนรับผิดชอบต้องมีวินัยปฎิบัติตามคำสั่งระเบียบของ ตร.โดยเคร่งครัด



