เหยื่อโผล่อีกราย ขายบิ๊กไบค์แต่ยังผ่อนไม่ครบ ไปเจอรถตัวเองประกาศขายอยู่ในกลุ่มรถหลุดจำนำ
นนทบุรี วันที่ 28 มี.ค.66 เวลา 14.00 น.ที่สำนักงานทนายความจิตอาสา น.ส.ธนิฐา หรือฟิล์ม ดวงคุณ อายุ 30 ปี พร้อมกับ นาย ศักดิ์ดา ชุ่มเกษร อายุ 35 ปี เดินทางเข้าร้องต่อทนาย เกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ถึงเรื่องที่ น.ส.ฟิล์ม ได้ขายรถ จยย.ยี่ห้อ BMW รุ่น S1000 RR ทะเบียน 9กฒ 4119 กรุงเทพฯ ในราคา 590,000 บาท ให้กับบุคคลที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊คโดยใช้ชื่อว่า นาย ชัชวาล (สงวนนามสกุล) ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลอกจำนำรถก่อนจะนำไปขาย แต่ยังไม่สามารถตามจับกุมตัวมิจฉาชีพรายนี้ได้ จนมาก่อเหตุกับผู้เสียหายรายที่สอง โดยมีพฤติกรรมการหลอกเหยื่อเหมือนเดิม
น.ส.ฟิล์ม เล่าว่า เหตุการณนี้เกิดขึ้นที่บ้านของตนที่จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2564 ก่อนหน้านั้นตนและแฟนได้ทำการซื้อรถจยย.บิ๊กไบค์ ยี่ห้อBMW มาในราคา 870,000 บาท สัญญาผ่อนชำระทั้งหมด 60งวดงวดละ 14,353 บาท และได้ผ่อนชำระกับทางไฟแนนซ์ไปแล้ว 17 งวด ต่อมาประสบปัญหาโควิด19 จึงไม่สามารถผ่อนรถคันดังกล่าวต่อได้ และได้เข้าโครงการพักชำระหนี้ 6 เดือน แต่ก็ไม่สามารถผ่อนต่อได้ จึงตัดสินใจโพสขายรถของตนเองในราคา 590,000 บาท แต่ด้วยราคาที่สูงจึงไม่ค่อยมีคนสนใจ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 ก.ย.64 นาย ชัชวาล ได้ติดต่อขอซื้อรถจยย.คันดังกล่าว ซึ่งนายชัชวาลคนนี้ ตนรู้จักผ่านทางเฟซบุ๊คและดูจากโปรไฟล์แล้วมีความน่าเชื่อถือ เพราะเห็นว่าทำธุรกิจหลายอย่าง จึงได้ตกลงนัดทำสัญญากัน โดยตกลงกันว่าให้นายชัชวาลผ่อนชำระกับตนอีก 43 เดือน เดือนละ 14,353 บาท และตนจะนำเงินไปผ่อนกับทางไฟแนนซ์ต่อ เมื่อผ่อนครบ 43 งวด จะทำการเปลี่ยนสัญญาเป็นชื่อนายชัชวาลให้ โดยวันที่ทำสัญญานายชัชวาลได้เดินทางมาดูรถด้วยตนเองก่อนที่ตนจะให้รถจยย.บิ๊กไบค์กับนายชัชวาลขี่กลับไป แต่ที่ผ่านมานายชัชวาลผ่อนให้กับตนเพียงแค่ 11 เดือนเท่านั้น และขาดส่งค่างวดตั้งแต่เดือน ต.ค.65 จนถึงเดือน ธ.ค.65 ตนจึงได้โทรไปสอบถามกับนายชัชวาล แต่นายชัชวาลกลับไม่รับสายเลยซักครั้งจึงทำให้ตนสงสัยเนื่องจากที่ผ่านมา นาย ชัชวาลจะรับสายตนตลอด และขาดการติดต่อมาจนถึงตอนนี้ ส่วนตัวแล้วตนไม่ได้รู้จักและสนิทกับนายชัชวาลมากมายอะไร เพียงแต่เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊คเท่านั้น โดยเฟซบุ๊คของนายชัชวาลใช้ชื่อเพจว่า “กำไรเพอร์เฟค คอนสตรัทชั่น” ซึ่งตนเข้าไปดูแล้วเห็นว่า เขาทำธุรกิจหลายอย่าง มีทั้งเปิดบ่อตกกุ้ง และทำธุรกิจอย่างอื่นอีกมากมาย ดูแล้วมีความน่าเชื่อถือ จึงทำให้ตนหลงเชื่อและได้มอบรถให้ไปทันทีในวันที่ทำการซื้อขายรถกัน ตอนนี้ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บางคนที แต่ร้อยเวรเจ้าของคดีถูกย้ายไปที่อื่นแล้วหนำซ้ำยังทำเอกสารแจ้งความของตนหายอีก จึงไม่รู้จะทำยังไงจึงมาปรึกษาทนายโป้งเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะได้ติดตามข่าวว่ามีผู้เสียหายที่โดนนายชัชวาลหลอกแบบตนมาปรึกษากับทนายโป้งเช่นกัน
นาย ศักดิ์ดา เล่าว่า เมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาพบว่ารถบิ๊กไบค์ของตนไปโผล่อยู่ในกลุ่มไลน์ซื้อขายรถหลุดจำนำและขายในราคาเพียงแค่ 290,000 บาท ที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีคนรู้จักที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวได้ส่งรูปถ่ายและรายละเอียดต่างๆส่งมาให้ตนดู และถามว่านี้ใช่รถของตนไหม พอตนได้ดูก็รู้ว่านี้คือรถของตนแน่นอนเพราะตนจำได้ แต่ตนไม่ได้เข้าไปสอบถามในกลุ่มดังกล่าวเพราะว่าตนไม่รู้เรื่องภาษาที่คนในกลุ่มใช้ซื้อขายกัน และกลัวว่าหากตนทักเข้าไปสอบถามจะทำให้เขารู้ตัวและหลบหนีไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะรู้ตัวและลบโพสที่ประกาศขายบิ๊กไบค์ของตนออกไปแล้ว ตนอยากจะฝากไปถึงคนที่ซื้อรถบิ๊กไบค์ของตนไป ตนอยากได้รถคืนเท่านั้น หากมีใครซื้อไปแล้วอยากให้ช่วยติดต่อกลับมาหาตนหน่อย เพราะรถคันดังกล่าวถูกนำไปขายโดยผิดกฏหมาย ตนจะขอซื้อคืนในราคาที่คนซื้อรับซื้อไป และจะไม่ดำเนินคดีใดๆ กับผู้ที่ซื้อไปแน่นอน แต่จะดำเนินคดีกับนายชัชวาลและผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
ทางด้าน ทนายโป้ง กล่าวว่า จากที่ตนได้ฟังข้อมูลต่างๆ และหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมา เบื้องต้นน่าจะเป็นคดีของการฉ้อโกง เพราะคนที่ใช้ชื่อว่านายชัชวาลได้ทำการหลอกลวงโดยการปกปิดข้อความจริง อละไม่ทราบว่าชื่อจริงชื่ออะไรแต่ตอนนี้ใช้ชื่อว่าชัชวาล ซึ่งทางผู้เสียหายได้แจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคนทีแล้วแต่ทางพนักงานสอบสวนทำเอกสารตัวจริงของผู้เสียหายสูญหายไป ฝากไปถึงผู้กำกับ สภ.บางคนที ช่วยกำชับดูแลลูกน้องของท่านด้วย และจะลงมาช่วยดูแลในเรื่องนี้อย่างไรเพราะทางผู้เสียหายมีความทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ทราบแต่ว่าทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกมาแล้วหลายรอบ แต่ความจริงน่าจะออกหมายเรียกเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น และน่าจะออกหมายจับได้แล้ว หลังจากนี้จะต้องไปลงพื้นที่ติดตามคดีนี้ เพราะคดีนี้มีความน่าเป็นห่วงเนื่องจากกระบวนการนี้ ตนได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายหลายรายที่ถูกนายชัชวาลคนนี้หลอก.



