เลขา ป.ป.ส.เผย ร่วม ตร.มุกดาหาร
จับกุมนักค้ายาเสพติด ระหว่างรับยาบ้า 1 ล้านเม็ด ริมโขง
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยถึงการสืบสวนติดตามขบวนการค้ายาเสพติดในจังหวัดมุกดาหาร จนสามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 1 ล้านเม็ด ขณะมารับยาเสพติด บริเวณริมแม่น้ำโขง ชายแดนไทย-สปป.ลาว จังหวัดมุกดาหาร
นายวิชัย เผยว่า ตนได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการข่าวและปราบปรามยาเสพติด 4 ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บูรณาการหน่วยภาคีในพื้นที่ จับตาการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างเข้มงวด เนื่องจากสถานการณ์ที่ขบวนการลักลอบนำเข้ายาเสพติดถูกกดดันอย่างหนักในพื้นที่ภาคเหนือ และมีแนวโน้มเปลี่ยนเส้นทางการลักลอบนำเข้ายาเสพติด เพื่อเข้ามาในพื้นที่ตอนใน
โดยในการจับกุมครั้งนี้ชุดปฏิบัติการข่าวและปราบปรามยาเสพติด 4 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ติดตามเครือข่ายยาเสพติดที่มีพฤติกรรมการลักลอบยาเสพติด บริเวณแม่น้ำโขง ชายแดน จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกับเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 รถกระบะขนยาบ้าชนประสานงาน จนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย และภายในกระบะพบยาบ้า 2 ล้าน 1 แสนเม็ด
จนมาในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ได้ทราบว่าขบวนการยาเสพติดนี้เคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยมีแผนที่จะรับและลำเลียงยาเสพติดจำนวนหนึ่งที่จากบริเวณชายแดนริมแม่น้ำโขง จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่จึงได้จัดเตรียมกำลังเพื่อเตรียมเข้าจับกุม จนเวลาประมาณ 08.00 น. พบรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ไม่ทราบทะเบียน และรถเก๋งนิสสัน รุ่นอัลเมล่า สีขาว ทะเบียนมุกดาหาร ขับเข้ามายังบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงติดตามและเข้าจับกุม โดยรถกระบะโตโยต้า ได้ขับฝ่าวงล้อมและหลบหนีไปได้ ส่วนรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมล่า เจ้าหน้าที่ปิดล้อมไว้ได้ ตรวจค้นพบยาบ้า 5 กระสอบ รวมจำนวน 1,000,000 เม็ด พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 2 คน
ต่อมาชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหากระจายตรวจค้นที่พักอาศัยและสถานที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับทำการยึด/อายัดทรัพย์สินที่เชื่อว่าเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ประเภท บ้านพร้อมที่ดิน รถยนต์ เงินสด ฟาร์มเลี้ยงวัว ฯลฯ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในขบวนการนี้ เพื่อจับกุม พร้อมยึด/อายัดทรัพย์สินอันเป็นการตัดวงจรการเงินให้ได้ทั้งขบวนการต่อไป
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า จากความร่วมมือกับทางการเมียนมาในการปราบปรามขยายผลการผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ชายแดนภาคเหนือ ทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดจึงได้ใช้ชายแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เป็นช่องทางลักลอบลำเลียงยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามทางการไทยได้เร่งรับมือสถานการณ์ดังกล่าว เพิ่มความเข้มงวดบริเวณจุดชายแดนไทย-ลาว ประกอบกับ การประสานงานกับ สปป.ลาว ในการร่วมมือกันปราบปรามจนทำให้ห้วงปีที่ผ่านมาประเทศลาวมีการตรวจยึดยาเสพติด และสารตั้งมากเป็นประวัติการณ์ โดยตนได้เน้นย้ำให้มีการประสานงานอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยงานภาคีในพื้นที่ และระหว่าง ไทย-ลาว เพื่อข้อมูลการข่าวที่รวดเร็วในการปราบปรามยาเสพติดลดทอนการลักลอบ