รวบบัญชีม้า หลอกวิดีโอคอลโป๊
แบล็กเมล์หนุ่มใหญ่ รีดเงินกว่า 5 แสนบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรชาติ ธีรชาติธำรง ผบก.ปพ.,
พ.ต.อ.สุรพันธ์ มั่นคงดี, พ.ต.อ.วรศักดิ์ บัณฑิต รอง ผบก.ปพ., พ.ต.อ.ชนกฤดิ พงษ์ศิริ ผกก.สายตรวจ บก.ปพ., พ.ต.ท.คมเดช นธกิจไพศาล, พ.ต.ท.ราชัน แก้วคูนอก รอง ผกก.สายตรวจ บก.ปพ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.อาชวิน อาจทวี สว.กก.สายตรวจฯ, ร.ต.ต.สุเทพ ชิดมณี
รอง สว.(ป). กก.สายตรวจ บก.ปพ. และ กก.สายตรวจ บก.ปพ.
ร่วมกันจับกุม นายอำนาจฯ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.401/2568
ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก
บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยไม่ได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”
สถานที่จับกุม บริเวณวัดหน้าพระเมรุ ตำบลลุมพลี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจากตามวันเวลาก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายแจ้งว่า ได้มีบัญชีเฟซบุ๊ก หญิงสาวได้แอดขอเป็นเพื่อนกับผู้เสียหายมา ต่อมา เฟซบุ๊กดังกล่าวได้ชวนคุยกันตามปกติ จากนั้นผู้เสียหายจึงได้ทำการแอดไลน์และคุยกันต่อในไลน์ ต่อมาคนร้ายได้ชักชวนให้ผู้เสียหายคุยเกี่ยวกับเรื่อง ลามก อนาจาร จากนั้นได้ชักชวนผู้เสียหายวิดีโอคอลกับคนร้าย พร้อมกับโชว์ของลับของผู้เสียหายเอง
โดยการวิดีโอคอลดังกล่าวนั้น ใช้ระยะเวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นประมาณ 20 นาทีต่อมาคนร้ายได้บอกกับผู้เสียหายว่าได้ทำการบันทึกรูปและวิดีโอตอนที่วิดีโอคอลคุยกัน จากนั้นคนร้ายได้ทำการข่มขู่ผู้เสียหายว่าถ้าหากไม่ยอมโอนเงินให้กับคนร้ายคนร้ายจะนำรูปและคลิปดังกล่าวส่งต่อให้กับเพื่อนๆ ของผู้เสียหายในเฟซบุ๊ก ผู้เสียหายจึงได้ทำการโอนเงินให้กับคนร้ายไปเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 500,000 บาท ผู้เสียหายจึงได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมาย
ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับ นายอำนาจ ฯ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.401/2568 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2568 กระทั่งชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนติดตามตัว ทราบว่าหลังจากหลบหนี ผู้ต้องหาได้แอบหลบหนีมาอาศัยอยู่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้ไปตรวจสอบ จนพบผู้ต้องหา บริเวณวัดหน้าพระเมรุ ตำบลลุมพลี อำเภอพระนครศรีอยุธยา
จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นได้ทำการจับกุม แสดงหมายจับให้ดู พร้อมได้ทำการแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบและเข้าใจดีแล้ว รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับตามหมายจับดังกล่าวมาก่อน
จึงได้จัดทำบันทึก และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การรับว่า
เปิดบัญชีธนาคารให้ชาวต่างชาติได้ค่าตอบแทน 3,000 บาท
การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”









