รวบครบทีมมือปืนฆ่า ส.อบต.อิปัน ปมขัดแย้งภายในครอบครัว
จ้างวานฆ่า 2 แสนบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.,
พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว
รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก, พ.ต.ท.อภิเดช อธิคมสัญญา, พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์, รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ รอง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ธีระพงษ์ คงเขียว สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.ยุทธนา จิตจำนอง รอง สว.กก.5 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 7 กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายอาคมฯ หรือเอียด อายุ 67 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเวียงสระ ที่ 40/2566 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ความผิดฐาน “ร่วมกันก่อ ด้วยการใช้ จ้าง วานหรือยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรกาพฤติการณ์ และผู้ถูกใช้ได้กระทำความผิดนั้น”
สถานที่จับกุม ห้องพักคนงานในสวนยางพารา ม.1 ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 เกิดเหตุคนร้ายขับรถประกบยิงนายบุญธรรมฯ
อายุ 54 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลอิปัน ซึ่งจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายสิบนัด บริเวณศีรษะและลำตัว นายบุญธรรมฯ หรือชู ถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุ บริเวณถนนหลวงหมายเลข 4133 หมู่ที่ 1 ตำบลอิปัน อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะกำลังขับรถกลับบ้าน
จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น พบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ไปรับประทานอาหารกับกลุ่มเพื่อนที่ร้านข้าวต้มใกล้กับสี่แยกพระแสง ก่อนจะแยกย้ายเดินทางกลับ
ระหว่างทางถูกคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ก่อเหตุยิงเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป
ผลการสืบสวนและขยายผล เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนจนพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุ และได้รวบรวมหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 7 ราย แบ่งหน้าที่ชัดเจนในการวางแผน จัดหามือปืน ขับรถ ชี้เป้า และลงมือยิง
โดยบุคคลเหล่านี้มีประวัติการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อาวุธปืน หรือคดีอุกฉกรรจ์มาก่อนทั้งสิ้น ได้แก่
“ชี้เป้า” นายภานุพงษ์ หรือ “ปอน”, นายทวีศักดิ์ หรือ “หนึ่ง”, นายปฎิพากย์ หรือ “หลอด” (ลูกนายอาคม)
“มือปืน” นายเอกชัย หรือ “เอกมหาราช” ,นายกิตติพงศ์ หรือ “จี”
“ขับรถมือปืน” นายสมยศ หรือ “แคว็ด”
“จ้างวาน/จัดหามือปืน” นายอาคม หรือ “เอียด”
การดำเนินคดีและผลการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 6 ราย
ส่วนนายอาคม หรือเอียด ยังหลบหนี 1 ราย และตรวจยึดพยานหลักฐาน อาทิ อาวุธปืนและรถยนต์คันที่ใช้ในการก่อเหตุ รถยนต์ที่ใช้ชี้เป้า โทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อสื่อสารระหว่างผู้จ้างวานและมือปืน ผู้ต้องหาทั้ง 6 รายให้การรับสารภาพ โดยนายเอกมหาราช มือปืน อ้างว่ารับงานจ้างฆ่าผู้ตายเมื่อประมาณเดือน ธันวาคม 2565 ได้รับการติดต่อว่าจ้างจากนายอาคม หรือเอียด ซึ่งเป็นบุคคลที่เคยรู้จักกันภายในเรือนจำ
โดยบอกว่าให้ช่วยจัดหาทีมเพื่อยิงผู้ตาย ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นหลานเขยของนายอาคมฯ โดยตกลงค่าจ้างเป็นเงิน 200,000 บาท และได้รับเงินตามที่ตกลงไว้แล้ว ปัจจุบันศาลจังหวัดเวียงสระมีคำพิพากษาลงโทษ กลุ่มมือปืน “จำคุกตลอดชีวิต” กลุ่มชี้เป้า “จำคุก 25 ปีเศษ”
จากการสืบสวนทราบว่าคดีนี้มีแรงจูงใจจากความขัดแย้งในครอบครัว โดยผู้ตายมีภรรยาน้อยและมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายภรรยาหลวงบ่อยครั้ง อีกทั้งนำทรัพย์สินไปปรนเปรอให้หญิงอื่น โดยมีนายอาคม
ซึ่งเป็นผู้จัดหาทีมมือปืน พร้อมทั้งมีการจ่ายเงินค่าจ้างกว่า 200,000 บาท
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่านายอาคมฯ หลบหนีไปกบดานอยู่บนภูเขาสูง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช จึงได้ติดตามไปแต่นายอาคม ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ จากนั้นได้สืบสวนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่าได้หลบไปพักอาศัยอยู่ที่ห้องพักคนงานในสวนยางพารา ม.1 ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ และวางแผนจับกุมตัวไว้ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน
สภ.พระแสง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับนายอาคมหรือเอียด เคยมีประวัติเป็นมือปืนรับจ้างคดีฆ่า 3 ศพ เมื่อปี 2536 ที่จังหวัดกระบี่ ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ต้องโทษอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง 14 ปีเศษ พ้นโทษเมื่อปี 2551 หลังจากที่พ้นโทษออกมาแล้ว ยังมีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพลกว้างขวางและเกี่ยวข้องกับกลุ่มมือปืนรับจ้างในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง หลายคดีที่เกิดขึ้นเชื่อว่านายอาคม อาจมีส่วนเกี่ยวข้องแต่พยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะดำเนินคดีได้
จนกระทั่งมาก่อคดีนี้อีกครั้ง
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขอให้การต่อสู้คดีในชั้นศาล
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบ
ใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด











