รวบพระหื่น ข่มขืนเด็ก 13 ปี หนีกบดานวัดป่า นาน 15 ปี
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์
(บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก.
สั่งการให้ พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์, พ.ต.อ.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ปิยะสมบูรณ์, พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส, พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พงศกร โนรี ประจำ(สบ 5) บก.ปคม., พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม., พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ, พ.ต.ท.ทรงวุฒิ ใจดีจริง รอง ผกก.3 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.3 บก.ปคม. ประกอบด้วย พ.ต.ท.เกียรติบดินทร์ วงค์งาม สว.กก.3 บก.ปคม.,
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม.
ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา พระภิกษุ จรูญ หรือนาย จรูญฯ อายุ 59 ปี
สถานที่จับกุม บริเวณวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์
ในความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม,พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร”
ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.602/2553 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2553
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณปี พ.ศ.2553 ขณะที่พระจรูญ จำวัดอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน
อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ได้ตีสนิทกับเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่ชอบมาเล่นที่วัดเป็นประจำและเรียนที่โรงเรียนใกล้วัด
โดยพระจรูญ ได้ให้เงินและขนมกับเด็กหญิงวัย 13 ปีดังกล่าวบ่อยครั้ง จนทำให้เด็กหญิง 13 ปี เกิดความสนิท
และเชื่อใจพระจรูญ ต่อมา วันที่ 2 กันยายน 2553 เวลาประมาณ 16.30 น. พระจรูญได้เรียกเด็กหญิงวัย 13 ปี
มาหาที่วัดและให้เงินกับขนมเช่นเคย แต่ครั้งนี้พระจรูญได้ลวงให้เด็กหญิงวัย 13 ปี ไปเอาขนมที่ห้องน้ำภายในวัด จากนั้นพระจรูญได้ใช้กำลังบังคับข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงวัย 13 ปี จนสำเร็จความใคร่ไปหนึ่งครั้ง แล้วบอกกำชับกับเด็กว่า ห้ามบอกพ่อแม่หรือผู้อื่น หากนำเรื่องดังกล่าวไปบอกผู้อื่นพระจรูญจะไม่ให้ขนมและเงินไปโรงเรียนอีกต่อไป
ต่อมาแม่ของเด็กหญิงวัย 13 ปี ได้สังเกตเห็นว่าเด็กหญิงวัย 13 ปี มีพฤติกรรม
ที่เปลี่ยนไป โดยมีอาการซึมเศร้าไม่ร่าเริงและเก็บตัวเงียบ แม่ของเด็กจึงได้เข้าไปเค้นถาม จนทราบว่า พระจรูญ
ได้ล่อลวงลูกสาวอายุ 13 ปี ไปกระทำชำเราในห้องน้ำของวัด จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน หลังจากพระจรูญทราบว่าผู้ปกครองเข้าแจ้ง จึงได้หลบหนีออกจากวัด และหลบหนีไปจำวัด ในวัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้ทำการสืบสวน
จนทราบว่าพระจรูญได้หนีมาจำวัด ที่วัดป่าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3
กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณวัดดังกล่าว จนพบเห็นพระที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับพระจรูญ นั่งอยู่ภายในวัด เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ และจับกุมตัวพระจรูญ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เตือนภัย กก.3 บก.ปคม.เตือนไปยังผู้ปกครอง ปกป้องลูกหลานจากภัยล่วงละเมิดทางเพศ ผู้ปกครองและทุกคนในสังคม โปรดระมัดระวังและใส่ใจดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ภัยคุกคามทางเพศต่อเด็กมีอยู่จริง
และอาจเกิดขึ้นได้จากคนใกล้ชิด หรือคนแปลกหน้า
