เมื่อวันที่ 14 ก.ค. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สอท.5 นำหมายค้นศาลจังหวัดกระบี่ เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ พร้อมจับกุมนายจรัญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี และ น.ส.นุชรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี พร้อมของกลางเอกสารหนังสือสัญญาเงินกู้
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1บก.สอท.5 ได้ทำการสืบสวนการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราตามที่กฎหมายกำหนด และกลุ่มเจ้าหนี้ที่มีพฤติการณ์ใช้ความรุนแรงในการ ทวงหนี้ และการรับจํานรถยนต์ รถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมาย
กระทั่งได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีผู้ใช้เฟสบุ๊คซึ่งมีการโพสต์โฆษณาชักชวนให้กู้เงินอกระบบ แต่มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเป็นรายอาทิตย์โดย เรียกเก็บ 120 ต่อ 1 อาทิตย์ หรือ 180 ต่อเดือน ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกําหนดในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งมีการโฆษณาชักชวนให้กู้เงินนอกระบบผ่านเฟสบุ๊คชื่อ “นาดาน้องฮันน่า” โดยจํานวนเงินที่จะให้กู้ขึ้นอยู่กับเครดิตของผู้กู้ แต่ละคน จากการตรวจตรวจสอบเฟสบุ๊คดังกล่าวพบว่ามีการโพสต์ข้อความทวงหนี้ในลักษณะที่มีถ้อยคํารุนแรง และยังพบรูปภาพสลิปการโอนเงินปรากฏชื่อ น.ส.นุชรินทร์ ซึ่งเป็นผู้ใช้งานเฟสบุ๊คดังกล่าว จึงรวบรวมข้อมูลหลักฐานขอหมายค้นเข้าค้นบ้านหลังดังกล่าว และจากการตรวจค้นภายในห้องนอนของนายจรัญพูน และ นางสาวนุชรินทร์ พบเอกสารหนังสือสัญญาเงินกู้ 4 ฉบับ หนังสือสัญญากู้เงิน ของผู้กู้ยืมเงิน 80,000 บาท หนังสือสัญญากู้เงินกู้ยืมเงิน 50,000 บาท หนังสือสัญากู้เงินของกู้ยืมเงิน 100,000 บาท หนังสือสัญญากู้เงินกู้เงิน 100,000 บาท วางอยู่บนชั้นวางทีวีภายในห้องนอน เมื่อตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนางสาวนุชรินทร์ พบรายละเอียดการปล่อยกู้ยืมเงินของลูกหนี้ 16 ราย กู้ยืมเงิน 15,000 บาท ส่งดอกเบี้ยทุกวันที่ 29 ของเดือนเรียกเก็บดอกเบี้ย 3,000 บาท หรือ 120 ต่อเดือน (125ต่อปี) กู้ยืมเงิน 10,000 บาทส่งดอกเบี้ยทุกวันที่ 30 ของเดือนเก็บดอกเบี้ย 2,000 บาทหรือร้อยละ 2 ต่อเดือน (ร้อยละ 240ต่อปี) กู้ยืมเงิน 100,000 บาท ส่งดอกเบี้ยทุกวันที่ 31 ของเดือนเรียกเก็บดอกเบี้ย 1,000 บาทหรือร้อยละ 1 ต่อเดือน (ร้อยละ12 ต่อปี) และยังพบอาวุธปืน 2 กระบอกที่ลูกหนี้มาจำนำไว้ และพบโทรศัพท์มือถือตรวจสอบข้อมูลภายในเครื่องพบข้อมูลการปล่อยเงินกู้ไลน์ส่วนตัวชื่อจ้าวเล็กอะไหล่ยนต์
จากการสอบสวนนายจรัญให้การยอมรับว่า ตนเองปล่อยเงินกู้นอกระบบให้กับลูกหนี้ในพื้นที่ใกล้เคียงจริง โดยลูกหนี้เงินกู้ของตนทุกรายจะต้องนําสิ่งของมาประกันหนี้เงินกู้ส่วนมากจะเป็นรถยนต์ ได้นําเจ้าหน้าที่ตํารวจไปตรวจสอบรถยนต์ 3 คัน ซึ่งตนเองได้รับจํานําไว้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตํารวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะ เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ร่วมกันประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันประกอบกิจการโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบรองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
